กลุ่มผู้ชุมนุม No NPO Bill กดดันรัฐบาล เรียกร้อง กฎหมายควบคุมเสรีภาพของประชาชน
ได้เคลื่อนขบวนจากหน้าองค์การสหประชาชาติ (UN) ผ่านถนนนครสวรรค์ – แยกนางเลิ้ง มายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อจัดทำกิจกรรม “8 ปี คสช. หยุดขยายอำนาจรัฐ” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกดดันรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิก มติคณะรัฐมนตรี ที่ให้ความเห็นชอบในหลักการ ต่อร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร ที่ละเมิด ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์โดยทันทีและยุติ การเสนอกฎหมายควบคุมเสรีภาพการรวมกลุ่มของประชาชน ทุกฉบับ
กลุ่มผู้ชุมนุมจะได้พยายามรื้อเครื่องกีดขวางของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาเรื่อยๆ จนสามารถมาปักหลักอยู่ที่ บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ เพื่อขอเข้าพบกับตัวแทนทางฝั่งรัฐบาลยื่นข้อเรียกร้องให้เร่งดำเนินการแก้ไขข้อเรียกร้องดังกล่าว
ขณะที่ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลได้จัดเตรียมกำลังจำนวน 2 กองร้อย ตำรวจ คฝ. 2 กองร้อย รถฉีดน้ำจีโน่ 2 คัน และรถบรรจุน้ำ 2 คัน แสตนบายอยู่ที่ บริเวณสะพานชไมมารุเชษฐ์ หน้าทำเนียบและบริเวณโดยรอบ เพื่อรอควบคุมกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น โดยทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามใช้เครื่องขยายเสียงประกาศเตือนถึงการกระทำของผู้ชุมนุมว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายและขอความร่วมมืออย่าใช้ความรุนแรงในการชุมนุม
ต่อมา เวลา 10.25 น. นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นตัวแทนรัฐบาลออกมารับหนังสือร้องเรียนและเป็นผู้เจรจากับทางกลุ่มผู้ชุมนุม โดย นายอนุชา ระบุว่า จะขอรับเรื่องไว้และขอเวลาศึกษา 1 เดือน เนื่องจากไม่เคยได้ทราบเรื่องมาก่อนว่ามีประชาชนมาร้องทุกข์ ทำให้ทางกลุ่มผู้ชุมนุมเกิดความไม่พอใจ เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้เคยยื่นหนังสือร้องเรียนมาตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.65 ที่ผ่านมา แต่กลับถูกเมินเฉย
ในขณะที่นายอนุชาฯ ได้รับปากว่าจะนำไปพิจารณา แต่ไม่สามารถตอบได้จะใช้เวลาเท่าไร เพราะต้องมีการนำเรื่องเข้าหารือกับ ครม.เสียก่อน
ทางด้านนายสมบูรณ์ (แกนนำ) ได้ยื่นคำขาดพร้อมประกาศว่า วันนี้จะยอมถอยกลับไปปักหลักที่หน้า UN เหมือนเดิม เพื่อติดตามรอฟังผลมติจาก ครม.ในวันนี้ หากผลไม่เป็นไปตามที่ร้องขอไว้ ทางกลุ่มผู้ชุมนุมจะรวมตัวกันอีกครั้งและเยอะกว่าเดิม พร้อมเคลื่อนขบวนมาทำกิจกรรมที่หน้าทำเนียบใหม่อีกครั้ง ในวันอังคารที่ 31 พ.ค. 65 นี้
ในเวลาต่อมา 12.30 น.นายรังสิมันต์ โรม ได้เดินทางมายังบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ บริเวณกลุ่มผู้ชมนุม เพื่อมาดูสถานการณ์ที่พี่น้อง ปชช.ที่เดินทางมาคัดค้านกฎหมายการรวมกลุ่ม No NPO Bill (ขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน) ซึ่งตนมีความเป็นห่วง เกรงว่าจะเกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มผู้ชุมนุม เนื่องจากเป็นกฎหมายาที่ทำลายประชาชนและเป็นกฎหมายที่ตนและพรรคก้าวไกลเป็นห่วงที่จะกระทบกับสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างมาก จึงมาดูว่ารัฐบาลได้มารับฟังและนำพาในสิ่งที่พี่น้องประชาชนได้เรียกร้องหรือไม่ ก่อนจะเดินทางกลับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอาจริง!! “ศรีสุวรรณ” ประกาศลั่น ม็อบ 14 พ.ย. เดี๋ยวเจอกัน ต้อง คุก เท่านั้น!