เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

หมอทนดูคนไข้เสี่ยงตายไม่ไหว ระดมทุนซื้อเครื่องมือแพทย์ด้วยตัวเอง หวังเพิ่มโอกาส รอด!

เป็นเรื่องราวที่ได้รับการแชร์โดยสมาชิกเฟซบุ๊ก Artit Arrunyagasamesuke ซึ่งได้เขียนถึงเรื่องราวของหมอที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลอย่าง จ.แม่ฮ่องสอน โดยเล่าถึงความยากลำบากในการทำงาน ในพื้นที่ห่างไกล โดยคุณหมอท่านนี้ได้ทำงาน ใน จ.แม่ฮ่องสอนมาหลายปี จนไปเรียนต่อแพทย์เฉพาะทาง เวชศาสตร์ฉุกเฉิน และกลับไปเป็นหมอที่แม่ฮ่องสอนอีกครั้ง แต่ด้วยความขาดแคลนหลายๆ อย่าง ทำให้โรงพยาบาลไม่มีเครื่องอัลตราซาวด์ และหากรอของบจากรัฐก็อาจจะต้องใช้เวลา 3-5 ปี ทำให้ผู้ป่วยต้องเสียโอกาสหลายๆ อย่าง จึงเริ่มออกระดมทุน จากเพื่อนๆ เพื่อหาเงินมาซื้อเครื่องมือแพทย์ เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนต่อไป

โดยข้อความได้ระบุว่า ” .บอกบุญครับ …”กูเสียดายเวลา และโอกาสของคนไข้” …ผมเจอประสานครั้งแรกตอนเข้ามหาลัย เป็นครั้งแรกที่เห็นคนเล่นกีตาร์คลาสสิกเพลงพระราชนิพนธ์ “สายฝน” ด้วยเทคนิค tremolo ที่ไหลลื่นสุดๆ

…นาทีนั้นไม่คิดแม้แต่น้อยเลยว่า ผู้ชายคนนี้จะเรียนคณะแพทย์ เพราะคิดเหมือนที่คนส่วนใหญ่คิดกันว่า คนเป็นแพทย์ต้องดู NURDๆ ไม่สนใจดนตรีกีฬา (555)  …หลังจากนั้นไม่นานก็สนิทกัน …ตั้งวงดนตรีวงแรกของคณะด้วยกัน*  …เดินป่าครั้งแรกก็เพราะประสานชวนไป (เดินป่าครั้งแรกกลัวมาก)*  …ไปอยู่กินบ้านชาวเขาครั้งแรกก็ไปกับประสาน

…สนใจเรื่องธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม คนชายขอบ ก็เพราะประสาน …ได้อ่านหนังสือดีๆ หลายเล่ม ได้รู้จักและหัดร้องเล่นหลายเพลง ก็เพราะประสาน …เคยเดินห่ามๆ ไปทั่วศาลายาเท้าเปล่าเกือบเทอม ก็กับประสาน*

…หลังเรียนจบก็แยกย้ายกันไป ประสานไปอยู่ รพ.ขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน อยู่หลายปี ทำหัตถการทุกอย่างที่จำเป็นเกินกว่าที่แพทย์ส่วนใหญ่ในประเทศทำกัน เพราะการส่งตัวผู้ป่วยมา รพ.จังหวัด เป็นเรื่องยากลำบากและเสี่ยงมาก (จำได้ว่าขับรถไปหาประสานที่ขุนยวมครั้งหนึ่งใช้เวลา 4 ชั่วโมงจากแม่ฮ่องสอน กับเส้นทางบนเขา 60กิโลเมตร)

…ผ่าตัดคลอด ผ่าตัดไส้ติ่ง ไปจนถึงผ่าตัดกระเพาะอาหารทะลุ ท้องนอกมดลูก แต่ละครั้งต้องโทรเรียกเจ้าหน้าที่ใน รพ.มาบริจาคเลือดให้คนไข้ เพราะ รพ.ไม่มีธนาคารเลือด
…ประสานแม่งทำทุกอย่างให้คนไข้เท่าที่จะทำได้

…จนวันหนึ่งประสานมาเรียนต่อแพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ฉุกเฉินที่ รพ.สวนดอก จบไปเป็นแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉินคนแรกของจังหวัดแม่ฮ่องสอน

…ประสานบอกกับเพื่อนๆ ว่าอยากให้ห้องฉุกเฉิน รพ.ศรีสังวาลย์ รพ.ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีเครื่องอัลตราซาวด์ ซึ่งด้วยความขาดแคลนของ รพ.รัฐ ประสานคาดว่า กว่าจะได้เครื่องอัลตราซาวด์คงไม่ต่ำกว่า 3-5ปี (ใครอยู่ รพ.รัฐ คงไม่แปลกใจ)

…สำหรับคนที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ อัลตราซาวด์เป็นเครื่องมือที่ใช้ตรวจวินิจฉัยอวัยวะภายในด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ข้อดีคือไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ต่อร่างกายมนุษย์ แต่ข้อจำกัดคือต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์ที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดี

…อัลตราซาวด์เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากในการวินิจฉัยภาวะฉุกเฉินต่างๆ ในผู้ป่วยแผนกฉุกเฉิน เช่น ภาวะเลือดออกในช่องท้อง (hemoperitoneum), ภาวะเลือดคั่งรอบๆ หัวใจ (pericardial effusion & cardiac temponade), ตรวจดูการทำงานของหัวใจ (Echocardiography), ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในเส้นเลือดปอด (Pulmonary embolism) เป็นต้น

…การวินิจฉัยภาวะต่างๆ ที่กล่าวมาได้ทันท่วงที หลายต่อหลายครั้งเปลี่ยนผลลัพธ์จาก “ตาย” เป็น “รอด”
…เพื่อนๆ ถามประสานว่า ทำไมมึงต้องออกมารับบริจาคเงินจากเพื่อนๆ ด้วย ประสานตอบสั้นๆ ว่า
…”กูเสียดายเวลา และโอกาสของคนไข้”