เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

“โรคเนื้อเน่า-หนังเน่า” กำลังระบาดหนักในช่วงฤดูฝน

เนื่องจากสวท.น่าน กรมประชาสัมพันธ์ ได้มีการรายงานการแจ้งเตือน จากนายแพทย์ พงศ์เทพ วงศ์วัชร

ไพบูลย์ รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลน่าน เรื่องการระบาด ของโรคเนื้อเน่า หนังเน่า (Necrotizing fasciitis)

หรือ แบคทีเรียกินเนื้อคน

โดยขอแจ้งเตือนประชาชน ในช่วงเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2562 พบ มีผู้ป่วยเข้ามารักษาที่รพ.น่าน จำนวน 25

ราย มีอาการรุนแรง ต้องเข้ารับการรักษาในไอซียู 1 ราย เมื่อเปรียบเทียบ กับเดือนมิถุนายน มีผู้ป่วยเพียง 2 ราย

ซึ่งแสดงให้เห็นว่า มีการระบาดของโรคเนื้อเน่า

โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีประวัติไปดำนา ลุยโคลน และโดนหอย หรือเศษแก้วบาด เศษไม้ตำเท้า และไม่ได้

ทำแผล หรือรักษาใด ๆ เนื่องจากต้องทำนาให้เสร็จ ทำให้เชื้อโรคเข้าไปในบาดแผล และเพิ่มจำนวนจนเกิด

อาการรุนแรงได้

โรคเนื้อเน่าส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อโรคทั้งชนิดที่ไม่ใช้ออกซิเจน เช่น คลอสติเดียม และเชื้อชนิดใช้ออกซิเจน

เช่น สแตปฟิโลคอคคัส สเตรปโตคอคคัส ชนิดที่สามารถสร้างสารพิษได้

โดยอาการจะมีผิวหนังบวมแดงร้อน ถ้าเชื้อลงลึกกินทั้งชั้นผิวหนังจะพบตุ่มพุพอง และค่อย ๆ เปลี่ยนสีเป็น

สีม่วง และถ้าเนื้อตายจะกลายเป็นสีดำ บางรายอาจจะต้องตัดขา หรืออาจจะมีการติดเชื้อเข้ากระแสเลือด ไข้

สูง และทำให้เสียชีวิต

ปัจจัยเสี่ยง…ที่ทำให้ติดเชื้อได้ง่ายคือผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ ได้แก่ ประวัติดื่มสุราประจำ เป็นโรคตับแข็ง

โรคเบาหวาน โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง และการรับประทานยาสเตียรอยด์ ส่วนใหญ่โรคนี้จะระบาดในฤดูฝนใน

ช่วงที่เกษตรกรลงดำนา ลุยโคลน

จึงขอเตือน…ให้ผู้ที่ทำนา ถ้ามีแผลตามร่างกาย ขอให้รีบขึ้นจากโคลน รีบล้างแผลโดยให้น้ำสะอาดไหลผ่าน

ซับด้วยผ้าสะอาด และปิดแผล ถ้ามียาฆ่าเชื้อโพวิโดนไอโอดีนสามารถใช้ทาแผลได้ แล้วรีบมาที่โรงพยาบาล

ส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือโรงพยาบาลใกล้บ้านเพื่อให้ตรวจรักษาต่อไป

สำหรับ…การรักษาแพทย์จำเป็นต้องตัดเนื้อตายออกให้หมด และให้ยาปฎิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อ ซึ่งถ้าเชื้อยังไม่

ลุกลามเข้ากระแสเลือด ผลลัพธ์ของการรักษาจะค่อนข้างดี สำหรับผู้ป่วยบางรายที่ไม่ได้ลงนา หรือไม่มีบาด

แผลก็อาจจะติดเชื้อดังกล่าวได้

โดยการเกาหรือมีบาดแผลถลอกเล็กน้อย เชื้อสเตรปโตคอคคัส หรือสแตปฟิโลคอคคัสที่อยู่บริเวณผิวหนัง

อาจจะเข้าไปในแผลแล้วเกิดการติดเชื้อ ถ้าผู้ใดมีผิวหนังบวมแดงอย่างรวดเร็ว แล้วมีตุ่มพุพองที่ผิวหนัง แนะ

นำให้รีบมาตรวจรักษาก่อนที่อาการจะลุกลามจนถึงขั้นเสียชีวิตได้