
เว็บไซต์เดลี่เมล ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองรามปุระหัต รัฐเบงกอลตะวันตก ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย โดยรูนิมีพฤติกรรมกลืนเครื่องประดับและสิ่งของมีค่าลงท้องมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ไม่มีใครในครอบครัวรู้เรื่องมาก่อน


แต่เมื่อใดก็ตามที่รูนิถูกแม่ถามว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับข้าวของที่หายไปหรือไม่ เธอก็จะร้องไห้ เหตุการณ์ในบ้านก็เป็นแบบนี้เรื่อยมา จนกระทั่งรูนิเริ่มล้มป่วย กินอะไรไม่ลง ซึ่งทำให้ร่างกายอ่อนแอ และนับวันยิ่งผอมลง จนกระทั่งวันหนึ่ง เธออาการหนักมาก ทางครอบครัวจึงต้องรีบพาไปหาหมอ

ข้าวของที่พบในท้องของคนไข้รายนี้ ประกอบไปด้วย ต่างหู 80 ชิ้น สร้อยเส้นยาว 69 เส้น เหรียญ 46 เหรียญ ห่วงจมูก 11 ชิ้น ล็อกเก็ต 8 อัน สร้อยข้อเท้า 5 เส้น กุญแจ 4 ดอก และนาฬิกา 1 เรือน รวมทั้งหมด 224 ชิ้น
ขณะนี้รูนิพ้นขีดอันตรายแล้ว อาการของเธอทรงตัวและกำลังพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาล โดยมีแพทย์และพยาบาลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด แต่กรณีของเธอก็ไม่ใช่เคสแรกที่มีคนไข้กลืนสิ่งแปลกปลอม เฉพาะที่ประเทศอินเดียแห่งเดียว ก็มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาหลายครั้ง
ก่อนหน้านี้ในปี 2561 แพทย์ได้ผ่าเอาเครื่องประดับ สกรู และนอต จำนวนมาก ออกจากท้องคนไข้หญิงในรัฐคุชราต ส่วนอีกเคสเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2562 เคสนี้คนไข้เป็นชายในรัฐราชสถาน ซึ่งกลืนตะปูลงท้องไป 116 ตัว
พฤติกรรมเหล่านี้มีชื่อเรียกว่า โรคชอบกินของแปลก หรือ Pica Disorder เป็นอาการผิดปกติทางจิตชนิดหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้ป่วยชอบบริโภคสิ่งของแปลกปลอมที่ไม่ใช่อาหาร ไม่ว่าจะเป็น กระดาษ เส้นผม ดิน หิน ไปจนถึงของแหลมคมที่เป็นอันตราย อย่างเช่น เศษแก้ว เศษโลหะ หรือตะปู ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีรายงานการวิจัยที่แน่ชัดว่าสาเหตุของโรคเกิดจากอะไร