เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 21 สิงหาคม ร.ต.อ.ณัฐวุฒิ มณีกาศ รอง สว.สอบสวน สภ.พระธาตุช่อแฮ อ.เมืองแพร่ ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันที่บ้านนาตอง หมู่ 9 ต.ช่อแฮ อ.เมือง จ.แพร่ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นร่วมกับ พ.ต.ท.ณัฐกิจ ชัยนันท์ รอง ผกก.สอบสวน หัวหน้าพนักงานสอบสวน แพทย์โรงพยาบาลแพร่ ตำรวจจากกองวิทยาการแพร่ และหน่วยกู้ชีพแพร่ รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุห่างจากวัดนาตองไปประมาณ 500 เมตร เป็นถนนลาดยางในหมู่บ้าน ที่ข้างทางเป็นพงหญ้า พบศพ นายสนั่น จันทร์วงศ์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 9 ต.ช่อแฮ อ.เมืองแพร่ เสียชีวิตในลักษณะนอนหงาย มีเสื้อยืดสีดำถลกขึ้นไปอยู่ที่ลำคอ กางเกงขาสั้นสีฟ้า ในมือขวาถือมีดทำครัว มีสายสร้อยห้อยคอ แต่ไม่มีพระ หน้าอกซ้ายมีรูกระสุน 3 รู
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า มือปืนคือ นายฝั่น จันทร์วงศ์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/4 หมู่ที่ 9 ต.ช่อแฮ ซึ่งเป็นพี่ชายของคนตายนั่นเอง และรอมอบตัวอยู่ที่บ้าน ตำรวจควบคุมตัวได้พร้อมอาวุธปืนแก๊ปยาว 1 กระบอก
สอบสวน นายฝั่น มือปืนให้การว่า ตนและน้องชายทะเลาะกันเป็นประจำ เพราะน้องชายเมื่อเมาแล้วชอบเอะอะโวยวายหาเรื่อง ว่าโน่นว่านี่ เคยยิงกันมาครั้งหนึ่ง แต่น้องชายมีพระดี ยิงไม่เข้า ก่อนวันเกิดเหตุช่วงเวลา 20.30 น. วันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ก็มีปากเสียงกันทั้งๆ ที่แยกกันอยู่คนละบ้าน เขาก็มาหาเรื่อง ตนยิงไป 1 นัด แต่ไม่ระคายผิวอีก เขาก็ลงไปที่บ้าน แล้วประกาศนัดหมายกับตนว่า วันพรุ่งนี้เช้ามึงแน่จริงไปยิงกันในป่าช้า พอเช้าวันนี้ตนก็ไปตามนัด ฝ่ายน้องชายก็เอามีดไปด้วย แต่มาพบกันกลางทางก่อนถึงป่าช้า น้องชายถือมีดเข้ามา แล้วก็ถกเสื้อที่สวมขึ้น ตะโกนว่าแน่จริงมึงยิงกูเลย ตนก็ยกปืนขึ้นยิงเข้าใส่หน้าอก 1 นัด น้องชายหันหลังเดินกลับมาบ้าน แต่เดินมาได้ประมาณ 80 เมตรก็ล้ม
“คาดว่าตอนยิงนั้น พระในคอน้องชายน่าจะหลุดออกตอนที่เขาเปิดเสื้อขึ้น หากพระยังอยู่คงจะยิงไม่เข้า ส่วนเรากลับถึงบ้านยังไม่รู้ว่าน้องชายเสียชีวิต จนกระทั่งมีเสียงเพื่อนบ้านตะโกนกันว่าน้องชายตายแล้ว เราก็ไม่ได้หนี ยังรอตำรวจอยู่”
หลังจากที่ควบคุมตัวแล้ว ได้นำตัวนายฝั่น มือปืนทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันที โดยมีชาวบ้านมามุงดูกันจำนวนมาก และวิพากษ์วิจารณ์กันเรื่องผู้ตาย ซึ่งจากคำให้การของมือปืนที่เป็นพี่ชาย เผยว่า น้องชายเคยถูกยิงมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ยิงไม่เข้า เพราะตอนนั้นเขาแขวน “พระร่วงรางปืน” ต่อมาก็โดนคนในหมู่บ้านยิงอีก เพราะน้องชายเกเรเมาอาละวาด แต่กระสุนก็ไม่เข้า น้องชายจึงทะนงตนว่าเป็นคนยิงไม่เข้า จึงมีการท้าทายยิงพี่ชายในวันนี้ แต่คาดว่าพระที่แขวนอยู่น่าจะหลุดหายตอนที่เปิดเสื้อถลกขึ้นเพื่อท้าให้ยิง กระสุนถึงเข้าหน้าอกแต่ไม่ตายทันที เพราะกระสุนฝังใน เลือดไหลข้างใน น่าจะท่วมหัวใจจนมาล้มสิ้นใจในขณะเดินจากจุดเกิดเหตุประมาณ 80 เมตร
ขณะที่พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนและชันสูตรพลิกศพพบว่า มีชาวบ้านที่รู้พากันไปค้นหาพระซึ่งคาดว่าจะตกอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ แต่ไม่มีใครพบ เชื่อว่าน่าจะมีคนเจอและเอาไปแล้ว
ทางด้านญาติของผู้ตายคนหนึ่งเผยว่า สองพี่น้องทะเลาะกันเป็นประจำเรื่องที่ดิน ทั้งๆ ที่แบ่งไปแล้ว มี 2 แปลงอยู่กันคนละบ้าน แต่ฝ่ายน้องชายยังไม่พอใจ จะทวงเสมอ และเมื่อเมาทีไรก็จะอาละวาด ผู้ตายไม่มีครอบครัว ก่อนเกิดเหตุได้นัดกับพี่ชายไปยิงกันที่ป่าช้า แต่ไปไม่ถึง เจอกันกลางทาง เลยยิงกันก่อน
“ส่วนเรื่องพระ ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง เพราะชาวบ้านในละแวกนี้จะรู้กันหมด เขาก็ชอบประกาศว่า เขาเป็นคนยิงไม่เข้า แต่วันเกิดเหตุไม่รู้ว่าพระหลุดออกไปได้ยังไง”
หลังสอบสวนและชันสูตรศพแล้ว พนักงานสอบสวนได้มอบศพให้ญาตินำไปตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดนาตอง เพราะทางญาติไม่ได้ติดใจ ส่วนผู้ต้องหาได้ตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาและมีอาวุธปืนไว้ครอบครองฯ ดำเนินคดีต่อไป
ภาพและข้อมูลจาก Thairath