ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเรื่องราวที่น่าเศร้าใจเกิดขึ้นกับเด็กหญิงวัย 10 ขวบ เด็กนักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดช่องลม) เทศบาลเมือง จ.ราชบุรี โดยทางโรงเรียน ร่วมกันรับบริจาคเงิน เพื่อนำไปจัดพิธีงานศพให้กับพ่อเด็ก ที่เสียชีวิตไปประมาณ 6 วันแล้ว แต่ศพยังอยู่ที่โรงพยาบาลราชบุรี เพราะไม่มีญาติไปติดต่อขอรับศพ และไม่มีเงิน ประกอบกับหนูน้อยคนดังกล่าวซึ่งเป็นลูกสาวผู้ตาย ถูกส่งไปอยู่ที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ราชบุรี ต.บ้านไร่ อ.เมือง จ.ราชบุรี แล้ว
นางวาสนา เจริญเปลี่ยน ผู้อำนวยการโรงเรียน เล่าว่า เด็กหญิงคนดังกล่าว อายุ 10 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.4 ทางโรงเรียนทราบเรื่องเมื่อวันจันทร์ที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีผู้ปกครองของเด็กนักเรียนคนอื่นแจ้งว่า พ่อของเด็กหญิง อายุ 61 ปี เสียชีวิตแล้วและขณะนี้ศพยังอยู่ที่โรงพยาบาล เพราะไม่มีใครไปแสดงตัวเป็นญาติ ตัวเด็กก็ถูกนำส่งบ้านพักเด็กฯ ทำให้มาโรงเรียนไม่ได้
บรรดาผู้ปกครองของเด็กๆ พ่อค้า แม่ค้า ที่ขายของในโรงเรียนรวมทั้งครู ได้ช่วยกันบริจาคเงินได้จำนวนหนึ่ง เพื่อรวบรวมไปให้เด็กหญิงเพื่อไว้จัดการงานศพพ่อ และได้เดินทางไปเยี่ยมที่บ้านพักเด็กฯ ทำให้ทราบอีกว่าแม่ของเด็กหญิง ได้นำน้องสาวอีก 3 คน มาฝากไว้ที่บ้านเด็กฯด้วย ซึ่งเมื่อเด็กหญิงมาเจอก็จำน้องได้ โดยทางโรงเรียนได้ประสานกับทางบ้านพักเด็กฯ เบื้องต้นแล้ว จะนำหนังสือหลักสูตรการเรียนมาให้อ่าน พอถึงวันสอบจะให้พาไปสอบที่โรงเรียน
เรื่องที่เกิดขึ้นทางครูประจำชั้นและโรงเรียนไม่ทราบมาก่อน เนื่องจากเด็กหญิงเป็นเด็กแจ่มใส การเรียนพอใช้ได้ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนปกติ พ่อมาส่งมารับทุกวัน ซึ่งมาทราบว่าพ่อของเด็กหญิงก่อนเสียชีวิตนอนป่วยรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชบุรี แต่ด้วยความรักห่วงลูก จึงแอบหนีจากโรงพยาบาลมาหาลูก เพื่อนอนกอดลูกและมาเสียชีวิตขณะลูกอยู่ในอ้อมกอด
ที่น่าห่วงตอนนี้คือ ยังนำศพพ่อออกมาบำเพ็ญกุศลไม่ได้ ทางโรงเรียนได้พยายามติดต่อญาติแล้ว ก็ไม่มีใครรับเป็นญาติ ติดต่อแม่ของเด็กหญิงก็ไม่ได้ ทราบว่าไม่มีที่อยู่และไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ศพจึงยังออกจากโรงพยาบาลไม่ได้ ซึ่งทางโรงเรียนมีเงินที่ได้จากการรวบรวมเพื่อจัดการงานศพแล้ว และประสานทางวัดช่องลมไว้แล้ว ตอนนี้ก็ยังพยายามอยู่ว่าจะทำอย่างไร ส่วนเรื่องเงินบริจาคทางโรงเรียนไม่อยากรับ แม้น้องจะมีบัญชีธนาคารของโรงเรียน เพราะเกรงว่าพอมีเงินเยอะขึ้นมาก็จะมีคนมาแสดงตัวเป็นญาติ ทำให้วุ่นวายอีก
สำหรับพ่อของเด็กหญิงมีโรคประจำตัว คือโรคหัวใจ ภายหลังพยายามหนีออกจากโรงพยาบาลเพื่อมาอยู่ดูแลลูก จนกระทั่งคืนวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้แอบออกจากโรงพยาบาลมานอนกับลูก จนกระทั่งช่วงเช้าวันที่ 6 ก.ย. เด็กหญิงจะไปโรงเรียนจึงปลุกเรียกพ่อ แต่พ่อไม่ยอมตื่น จึงใช้โทรศัพท์ของพ่อโทรหาเพื่อนของพ่อมาถึงก็พบว่า เด็กหญิงนั่งร้องไห้อยู่ข้างร่างของพ่อแล้ว