วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 สาวผู้ใช้เฟซบุ๊ก จุฑารัตน์ โรจนปริยาภัสร์ ได้เผยคลิปจากกล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ที่เธอโดนคนร้ายฉุด จากบริเวณหน้าบ้านของเธอเอง ในเบย์วิว เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยเหตุเกิดขึ้น ขณะที่เธอยืนเล่นมือถืออยู่หน้าบ้าน และใส่หูฟังอยู่ตลอด ทำให้ไม่ได้ยินและไม่ทันสังเกตคนร้าย จึงตั้งใจแชร์คลิปดังกล่าวเตือนเป็นอุทาหรณ์ให้หญิงสาวทุกคน อย่าชะล่าใจ และเมื่อถึงบ้านแล้วให้เข้าบ้านทันที
โดยหญิงสาวเล่าว่า เหตุเกิดขึ้นวันที่ 29 ตุลาคม ที่ผ่านมา ตนนั่งรถเมล์กลับจากโรงเรียนตามปกติ ซึ่งนั่งรถสายเดิมและลงรถเวลานี้ทุกวัน เวลา 21.26 น. จากนั้นขี่สกูตเตอร์มาจอดที่หน้าบ้าน พร้อมกับใส่หูฟังเพลงตลอด ตนไม่ทันได้สนใจสิ่งรอบข้าง และมัวยืนกดมือถือตอบข้อความอยู่ 2 นาที กระทั่งคนร้ายเดินมาประชิดตัว
คนร้ายเข้าล็อกคอ ใช้มือปิดปากและจมูกของ และกระชากตนอย่างแรงไปตามทาง เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก ไม่สามารถจำหน้าคนร้ายหรือการแต่งตัวของคนร้ายได้เลย ตนถูกลากไปตามทาง กระทั่งเริ่มตั้งสติได้เลยถามคนร้ายไป 3 ครั้ง ว่าต้องการเงินหรือไม่ จะเอาเงินให้ แต่คนร้ายไม่พูดไม่ตอบอะไรเลย ตั้งใจฉุดอย่างเดียว จึงรวบรวมสติ และใช้กุญแจบ้านในมือแทงเข้าที่หลังคนร้าย ต่อยเป้ากางเกง และกัดนิ้วมือ จนมือคนร้ายหลุดจากปากสำเร็จ จากนั้น จึงกรีดร้องเสียงดังเพื่อให้คนมาช่วย คนร้ายจึงวิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก มีแค่แผลปากแตก เจ็บแก้ม และปวดคอจากการโดนกระชากอย่างแรง ประสบการณ์อันเลวร้ายครั้งนี้ทำให้จิตตกมาก รู้สึกระแวงทุกครั้งที่อยู่นอกบ้านและตอนอยู่บ้านคนเดียว เพราะเจตนาของคนร้าย ถ้าไม่ต้องการเงิน มันก็อาจจะหวังข่มขืนตน แทบไม่อยากจินตนาการว่า หากคนร้ายทำสำเร็จ หรือหากฆ่าตนหลังข่มขืน จะเป็นอย่างไร
ตนกลัวว่า คนร้ายอาจเป็นคนในพื้นที่ ที่เล็งตนไว้นานแล้วหรือไม่ แต่หากเป็นแค่โชคร้ายที่มันบังเอิญมาเจอก็แล้วไป ตอนนี้ตนแจ้งความตำรวจแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินคดี พร้อมฝากเตือนสาว ๆ ทุกคน ถ้าถึงบ้านแล้วให้รีบตรงเข้าบ้านเลย อย่ามัวห่วงเล่นมือถือ ที่สำคัญอย่าคุยโทรศัพท์หรือฟังเพลง เพราะทำให้เราไม่ทันระวังตัวจากอันตรายรอบข้าง
#แชร์ได้ โพสต์นี้เป็นโพสต์เตือนภัยสำหรับสาวๆทุกคนนะคะ ทั้งที่ไทยและที่นี่ บางคนอาจจะได้ยินมาบ้างแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา ตอนนี้สภาพจิตใจดีขึ้นมานิดนึง ร่างกายโอเค มีแค่แผลปากแตก เจ็บแก้มกับปวดคอจากการโดนกระชากอย่างแรงเรื่องมีอยู่ว่า #เราโดนผู้ชายฉุด ที่หน้าบ้านของเราเองใน Bayview, San Francisco เมื่อคืนวันอังคารที่ 29 เวลา 9.28pm หลังจากที่เรากลับจากโรงเรียนเรากลับบ้านเวลาประมาณนี้ทุกวัน บัสสายเดิมและทางเดิม เราลงบัสมาเวลา 9.26pm และขี่สกู๊ตเตอร์ต่อเพื่อมาจอดหน้าบ้าน แต่ไม่รู้และไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเลยว่ามีผชแอบเดิมตามมา เราใส่หูฟังและเมื่อเราถึงหน้าบ้าน เรายืนกดมือถืออยู่ประมาณ 2 นาที จนผชคนนั้นเดิมมาประชิดตัวเราจากข้างหลังโดยที่ไม่รู้ตัวมันล็อคคอเรา ปิดจมูกปิดปากด้วยมือ และพยายามลากเราไปทางที่มันเดินมาหรือทางที่เราลงจากรถบัสนั่นเอง เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก จนเราไม่ได้สติที่จะพอจำหน้าหรือการแต่งตัวของมันได้ (จนได้มาดูคลิปจากล้องที่คนข้างบ้านส่งให้) เราจำได้แต่ความสูงและรูปร่างของมัน แต่มีสติมากพอที่จะสู้กลับผชคนนี้เข้ามาล็อคเราและลากอย่างแรงขนาดว่าเราตัวใหญ่มันยังลากซะเหมือนต้องวิ่งตามมัน ในระหว่างที่เราโดนลาก เราถามมัน 3 ครั้งว่าต้องการเงินไหม เราจะให้ แต่มันไม่พูด ไม่ตอบ หรือพูดภาษาอะไรกับเราเลย มันตั้งใจจะฉุดเราอย่างเดียว เราตั้งสติและสู้กลับโดยการเอากุญแจที่มีอยู่ในมือ (เรากำลังจะไขประตูเข้าบ้าน) แทงเข้าข้างหลังมัน ต่อยเป้ามันแหละสุดท้ายเรากัดนิ้วที่มันปิดปากเราจนหลุดออกได้สำเร็จและกรีดร้องเรียกคนให้มาช่วยจนมันหนีไป โชคดีที่เราไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรร้ายแรง และรอดมาได้ไม่อยากจะพูดเลยว่าเจตนาของมันคืออะไรถ้ามันไม่ต้องการเงิน #แจ้งตำรวจแล้ว ตอนนี้ก็ได้แค่รอการอัปเดตเหตุการณ์นี้ทำให้เราได้รับประสบการณ์อันเลวร้ายที่ยิ่งใหญ่ มันทำให้เราจิตตกทุกครั้งที่เห็นรถตำรวจเข้ามาลุมล้อมและน้ำตาไหลตลอดเวลา เราระแวงว่าจะมีคนจู่โจมเราจากข้างหลัง และรู้สึกไม่ปลอดภัยตลอดเวลาที่อยู่นอกบ้านและในบ้านถ้าเราอยู่คนเดียว เหตุการณ์นี้มันทำให้เราคิดว่ามันจะข่มขืนเรา และถ้ามันทำสำเร็จ เราจินตนาการไปต่างๆนาๆว่า มันจะฆ่าเราไหม ถ้าเราตายไปเลย มันคงจะดีกว่าถ้ามันจับเราไปทารุณ พิการ แต่ไม่ตาย คืนนั้นเราคิดอยากฆ่าตัวตายขึ้นมาถ้ามันเกิดขึ้นจริง จิตใจเราไม่ดีจนเข้าข่ายพบจิตแพทย์ตั้งแต่คืนนั้นจนตอนนั้นมันยังทำให้เราหลอนอยู่ว่ามันเป็นโรคจิตรึเปล่า เราก็หลอนไปว่ามันจะปีนรั้วเข้ามาแอบดูเราไหม เราไม่รู้ว่ามันเป็นใคร มันเฝ้าดูเรามานานรึยัง เรากลัวว่ามันจะเป็นคนในพื้นที่ๆเห็นเรามานานแล้ว รู้จักบ้านและกิจวัตรของเรา มันจะกลับมาฉุดเราอีกไหม เพราะมันทำไม่สำเร็จ เราก็ได้แต่หวังว่าเราแค่เป็นผู้โชคร้ายที่ไม่ได้เจาะจงในคืนนั้นอยากเตือนสาวๆทุกคนนะคะ ว่าถึงบ้านแล้ว ให้รีบตรงเข้าบ้านโดยเร็วอย่าลีลา โทรศัพท์ค่อยตอบทีหลัง ทำท่าระวังตัวและพร้อมวิ่งตลอดเวลาถ้าเกิดอะไรขึ้น พกอุปกรณ์ป้องกันตัว และที่สำคัญคือ อย่าคุยโทรศัพท์ อย่าฟังเพลงและใส่หูฟังในที่มืด มันทำให้เราไม่ได้ระวังตัวแต่ถ้ามีไรเกิดขึ้น จงมีสติให้มากๆ ถ้าสู้ได้ให้สู้กลับ และอย่าไว้ใจคนแปลกหน้าทั้งสิ้นเวลาเราอยู่นอกบ้าน ถึงแม้พวกมันจะแต่งตัวดีเราพลาดตรงที่เราใส่หูฟังและยืนเล่นตอบข้อความโทรศัพท์อยู่หน้าบ้าน ถึงแม้จะแค่ 2 นาที ซึ่งจริงๆแล้วเราขี่สกู๊ตเตอร์เราเร็วกว่าและสามารถจะเข้าไปถึงในบ้านได้ทันก่อนที่มันจะเข้ามาฉุดเราด้วยซ้ำ โชคดีที่มันทำไม่สำเร็จและเราไม่เป็นอะไรร้ายแรง และมันทำให้เราได้รู้ว่าพื้นที่บ้านเราอันตราย เพราะถ้าเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นเราจะไม่มีทางรู้เลยว่ามีคนประสงค์ร้ายคิดทำไม่ดีอยู่ข้างนอก และเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ต้องระวังนะคะทุกคน ประสบการณ์นี้เราจะไม่มีวันลืมเรามีวีดีโอให้ดูแต่มันจะไม่ค่อยชัด ถ้าอยากดูชัดๆให้กดเข้าไปดู links ข้างล่างนะคะ จะชัดกว่า
โพสต์โดย จุฑารัตน์ โรจนปริยาภัสร์ เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม 2019
Cr. Kapook