วันที่ 2 ก.ย.63 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) มีรายงานข่าวว่า เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 31 ส.ค.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บุคคโล ได้ทำการจับกุมตัว น.ส.มนัสวี แตงทับทิม อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ข้อหา ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) และได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังจากนั้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ในห้องควบคุมของ สน.บุคคโล เพื่อทำการสอบสวนและรอนำตัวไปฝากขังศาล
เมื่อเวลา 08.50 น.ของวันที่ 1 ก.ย.63 พ.ต.ท.กระจ่าง จิตรเกลี้ยง สวป.สน.บุคคโล ได้ทำการตรวจสอบห้องควบคุมพบว่า น.ส.มนัสวี ไม่ได้อยู่ในห้องควบคุม จึงได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าระหว่างเวลา 00.01-08.00 น.ทาง ด.ต.สุพจน์ (ขอสงวนนามสกุล) ผบ.หมู่ (ป) สน.บุคคโล ทำหน้าที่สิบเวร ได้ไขกุญแจห้องควบคุมและพาผู้ต้องหาหนีออกไป ทาง พ.ต.ท.กระจ่าง จึงได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.สำเหร่ ให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.สุพจน์ ทางพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้ตามคดีอาญาเลขที่ 388/2563
ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวน สน.สำเหร่ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ให้ออกหมายจับ ด.ต.สุพจน์ ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานมีตำแหน่งหน้าที่ควบคุมดูแลผู้ที่ต้องขัง ตามอำนาจของพนักงานสอบสวนหรือของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา กระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้ที่อยู่ในระหว่างคุมขังนั้นหลุดพ้นจากการคุมขังไป และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ต่อมาศาลได้อนุมัติตามขอและในวันนี้ (2 ก.ย.63) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจับกุมตัว ด.ต.สุพจน์ ตามหมายจับแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับในเรื่องการดำเนินคดีทางวินัย ก็จะได้ทำควบคู่ไปกับการดำเนินคดีอาญา โดยทาง พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ได้เน้นย้ำว่าจะดำเนินการตามนโยบาย ผบ.ตร. ที่กำชับให้ดำเนินคดีกับข้าราชการตำรวจที่กระทำผิดกฎหมายอาญาหรือประพฤติปฏิบัติตนไม่ชอบ ทั้งทางอาญาและทางวินัยโดยเฉียบขาด ส่วนทาง น.ส.มนัสวี ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทางด้าน พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 กล่าวเปิดเผยว่า ในเบื้องต้นทาง พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้สั่งการให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด และจับกุมมาดำเนินคดีแล้ว ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้ทาง ผกก.สน.บุคคโล ดำเนินการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการทางวินัยเพิ่มเติมควบคู่กับการดำเนินการทางคดีอาญา จากการสอบสวนเบื้องต้นดาบตำรวจคนดังกล่าวรับสารภาพว่า ทำเพียงคนเดียว ส่วนสาเหตุที่แน่ชัดยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำ แต่คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นระหว่างเรื่องข้อตกลงของดาบตำรวจและผู้ต้องหาหญิงคนดังกล่าว คดีนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มว่าเกี่ยวกับการขอมีเพศสัมผัสจริงหรือไม่ และก่อนหน้านี้ทราบว่าทางดาบตำรวจรายดังกล่าวนั้น เคยก่อเหตุมาลักษณะแบบนี้และอยู่ระหว่างตรวจสอบ ซึ่งหากมีกรณีดังกล่าวพิสูจน์ทราบได้ว่า ดาบตำรวจนายดังกล่าวมีการกระทำผิดจริง ก็จะดำเนินการให้มีการไล่ออกปลดออกต่อไป