มีบ้านขายบ้านมีรถขายรถ เตรียมหมดตัวแน่งานนี้ เมื่อเหล่าผู้ประกอบการภาคเอกชนใน จ.เชียงราย เตรียมรวมตัวกันฟ้องพวกลักลอบเข้าไทย จนทำให้เกิดผลกระทบ คาดว่าค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท
วันนี้ ( 8 ธ.ค.63 ) ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและภาคเอกชนใน จ.เชียงราย อาทิ หอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย สมาคมสมาพันธ์ผู้ประกอบการท่องเที่ยวภาคเหนือ สมาคมโรงแรมฯ ชมรมร้านอาหาร และผู้ประกอบการรถเช่า ได้รวมตัวกันหารือถึงผลกระทบจากการลักลอบผ่านแดนทางช่องทางธรรมชาติ มาพร้อมกับโรคโควิด-19 ของกลุ่มพนักงานสถานบันเทิงในโรงแรม 1G1 จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา หรือกลุ่ม “เด็กเอ็น-วันจีวันท่าขี้เหล็ก” จนทำให้มีการยกเลิกการจองที่พัก ยกเลิกกรุ๊ปสัมมนา และศึกษาดูงานใน จ.เชียงราย เป็นจำนวนมาก เบื้องต้นประเมินมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้วคาดว่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท
นายกิตติ ทิศสกุล ที่ปรึกษาสมาคมสมาพันธ์ผู้ประกอบการท่องเที่ยวภาคเหนือ บอกว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นกับการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย เกิดจากขึ้นจากสาเหตุหลัก 2 ประการ คือ ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ชัดเจน และการที่มีผู้ติดเชื้อโควิดลักลอบข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติเข้ามาในพื้นที่ โดยในส่วนของข้อมูลข่าวสารที่อาจจะไม่ชัดเจนในตอนแรกนั้น ทางจังหวัดได้ดำเนินการแก้ไขโดยจัดให้มีการแถลงข่าวเป็นประจำ ซึ่งทำให้ประชาชนเข้าใจสถานการณ์มากขึ้น
ในส่วนของผู้ติดเชื้อโควิดลักลอบข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติเข้ามาในเชียงรายนั้น ตัวแทนผู้ประกอบการได้หารือกับสภาทนายความให้ยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง โดยผู้ประกอบการจะรวมข้อมูลความเสียหายที่ชัดเจนให้กับทางสภาทนายความ ทั้งนี้เหตุผลในการฟ้องร้องเนื่องจากต้องการให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม หวังว่าจะให้เป็นคดีตัวอย่างป้องปรามไม่ให้ผู้ที่คิดจะลักลอบข้ามแดนกระทำผิดซ้ำอีก
ขณะเดียวกันจังหวัดเชียงราย ได้เชิญชวนชาวเชียงราย ร่วมทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ วัด โรงเรียน สถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า สถานที่ราชการและเอกชน ใกล้บ้าน ในวันที่ 10 ธ.ค.63 เวลา 10.00 น. พร้อมกันทั้งจังหวัด เพื่อป้องกันโควิด-19 และสร้างความเชื่อมั่นใจให้คนไทยทั้งประเทศ