ชาวบ้าน จัตุรัส ชัยภูมิ ผวาโจรโรคจิตหน้าตาดี ดักถีบจยย.สาวล้มฉุดเข้าข้างทาง คาดหวังข่มขืน กลางวันแสกๆ ไม่เว้นแม้สาวใหญ่ โชคดีเหยื่อ 2 รายหนีพ้นโร่แจ้งความตำรวจล่าตัว พร้อมโพสต์เตือนภัย

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุชาวบ้านผู้หญิงหวาดผวา โจรโรคจิตหน้าตาดี ออกอาละวาดไล่ฉุดไม่เว้นแม้กระทั่งคนแก่ คาดหวังข่มขืนริมถนน หลังมีการแชร์กันออกไปทางโซเชียลจำนวนมาก โดยเหตุเกิดบริเวณถนนจัตุรัส-หนองบัวระเหว บ้านหนองแก ต.ส้มป่อย อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ โดยชาวบ้านรายแรกเป็นสาวใหญ่วัย 52 ปี เล่าว่า เหตุเกิดช่วงเที่ยววันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะกำลังขี่รถ จยย.พ่วงข้างผ่านมาบริเวณที่เกิดเหตุ มีชายตัดผมรองทรง สวมเสื้อสีส้ม หน้าตาดี ขี่รถ จยย.ตามมาแล้วแซงขึ้นประกบ ก่อนใช้มือบิดกุญแจรถตนแล้วถีบรถเสียหลักลงข้างทาง แต่เพราะเป็นรถพ่วงเลยไม่ล้มบาดเจ็บ จากนั้นคนร้ายใช้มีดบังคับลงจากรถ จึงบอกว่าอย่าทำอะไรให้เอาทรัพย์สินเป็นกระเป๋าที่วางอยู่หน้ารถไป แต่คนร้ายไม่สนพยายามดึงร่างตนเข้าป่า ตนจึงสะบัดตัววิ่งหนีพร้อมร้องตะโกนให้ชาวบ้านช่วย คนร้ายเห็นท่าไม่ดีจึงโยนกุญแจรถคืนมาแล้วรีบขึ้นรถ จยย.ขี่หลบหนีไป กระทั่งมีพลเมืองดีผ่านมาจึงมาแจ้งความไว้เป้นหลักฐานที่ สภ.จัตุรัส

อีกราย เป็นนักเรียนสาววัย 18 ปี เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ช่วงเวลาประมาณ 13.30 น. วันที่ 20 ธ.ค. หลังไปใช้สิทธิเลือกตั้งใน อ.หนองบัวระเหว ขากลับขี่รถ จยย.แวะหาแม่ที่บ้านหนองม่วง ต.ส้มป่อย อ.จัตุรัส มาถึงจุดเกิดเหตุบนถนนดังกล่าวช่วงหลัก กม. 22 มีผู้ชายหน้าตาดี ผิวขาว ตัดผมรองทรง ใส่เสื้อสีเทา สูงประมาณ 165-170 ซม. ขี่รถ จยย.ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีดำ ไม่ทราบทะเบียน มาตีคู่ ใช้มือบิดกุญแจให้เครื่องดับก่อนกำเบรกรถตนให้หยุดแล้วถีบรถล้ม แล้วพยายามฉุดกระชากลากดึงลงไปข้างถนน จากนั้นผลักตนล้มแล้วจะนั่งคร่อมบนร่าง เลยอาศัยจังหวะนั้นใช้เท้าเตะเข้าไปที่หว่างขาอย่างแรงทำให้คนร้ายเจ็บตัวงอร้องครวญคราง ตนจึงวิ่งหนีขึ้นมาบนถนนพอดีมีรถผ่านมาจึงร้องให้ช่วย คนร้ายเห็นท่าไม่มีจึงโยนกุญแจรถตนทิ้งแล้วรีบขี่รถ จยย.หลบหนีไป หลังเกิดเหตุจึงไปแจ้งความที่ สภ.จัตุรัส ก็ทราบว่ามีคนเคยถูกก่อเหตุแบบเดียวกัน จึงโพสต์โซเชียลเตือนภัยประชาชนขี่รถ จยย.ผ่านบริเวณดังกล่าวให้ระวังตัวสอดส่องสายตาดูดีๆ และขอบคุณพลเมืองดีที่ผ่านมาพอดี ไม่อย่างนั้นไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รับแจ้งความไว้เป็นหลักฐานก่อนให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่เก็บหลักฐานติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป