เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันนี้ 6 ม.ค. นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยถึงกรณีที่ในโซเชียลมีเดียระบุว่ามีแรงงานของโรงงานอาหารทะเลกระป๋องแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ท่าทราย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 900 คนว่า เป็นตัวเลขที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อ 2 วันที่แล้ว โดยทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครได้รายงานให้กระทรวงสาธารณสุข และผู้บังคับบัญชาทุกระดับได้รับทราบแล้ว ซึ่งทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ก็มีการรายงานผลให้ประชาชนได้รับทราบแล้วเช่นกัน คือ ยอดที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งที่ค้นหาเชิงรุก และพบในโรงพยาบาล 541 ราย กับ 470 ราย

“ในกลุ่มแรงงานที่ตรวจพบเชื้อกว่า 900 ราย เป็นการตรวจพบเชื้อในกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่ทำงานอยู่กับสถานประกอบการในเครือของบริษัทแห่งหนึ่ง พื้นที่ อ.เมืองสมุทรสาคร แต่ไม่ใช่เป็นการตรวจพบที่จุดใดจุดหนึ่ง แต่ตรวจพบในจุดต่างๆ เพียงแต่เป็นโรงงานในเครือของบริษัทเดียวกัน เมื่อนำตัวเลขมารวมกันจึงทำให้มียอดผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และเมื่อตรวจพบเชื้อแล้วก็ได้นำเข้าสู่ระบบควอรันทีน (กักตัว) ตามกระบวนการของสาธารณสุข” นพ.นเรศฤทธิ์กล่าว

ส่วนการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุกในกลุ่มแรงงานที่ทำงานอยู่ในสถานประกอบการกว่า 11,000 แห่งนั้น นพ.นเรศฤทธิ์กล่าวว่า ตอนนี้จะเน้นไปที่โรงงานขนาดใหญ่ที่มีแรงงานตั้งแต่ 200 คนขึ้นไป ซึ่งมีกว่า 100 แห่ง โดยจะต้องทำการตรวจให้ครบภายใน 1 สัปดาห์ ส่วนวิธีการตรวจค้นหาเชื้อ เบื้องต้นจะทำการสุ่มตรวจก่อน หากโรงงานใดพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 10% ของจำนวนแรงงานกลุ่มตัวอย่างก็จะทำการตรวจแรงงานในสถานประกอบการนั้นๆ ให้ครบทั้ง 100% ขณะนี้ดำเนินการไปได้กว่า 20 แห่งแล้ว

ด้านนายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 ม.ค. พนักงานไทยยูเนี่ยนจำนวน 23,630 คน หรือมากกว่า 85% ได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว โดยพนักงานที่ปฏิบัติงานในจังหวัดสมุทรสาครมีทั้งสิ้น 27,552 คน ได้รับผลการตรวจยืนยันโดยวิธี PCR มีพนักงานที่ติดเชื้อ 69 คน หรือ 0.29% บริษัทฯ ได้ทำการแยกพนักงานกลุ่มดังกล่าวเพื่อกักตัวและส่งรักษากับทางภาครัฐต่อไปหากมีอาการใดๆ ทั้งนี้ การตรวจทั้งสิ้นจะแล้วเสร็จในช่วงสัปดาห์หน้า ย้ำว่าพนักงานทุกคนจะได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับการดูแลอย่างดี โดยไม่จำกัด อายุ เพศ หรือเชื้อชาติ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการผลิตของบริษัทฯ จะดำเนินอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ไทยยูเนี่ยนได้ปฏิบัติตามระเบียบวิธีและแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข โดยมีการกักตัวพนักงานกลุ่มเสี่ยงที่มีการติดต่อกับผู้ติดเชื้อ นอกจากนี้ หน่วยงานของรัฐยังมีการติดตามผู้ที่เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงต่อไป ไทยยูเนี่ยนจะยังคงติดตามสถานการณ์และประสานงานกับภาครัฐอย่างใกล้ชิด บริษัทฯ ได้มีมาตรการที่ชัดเจนในการดูแลผู้ที่ติดเชื้อเอาไว้แล้ว รวมไปถึงการดูแลพนักงานที่ได้รับผลกระทบในขณะที่กักตัวตามแนวทางของภาครัฐ มีการระบุผู้ใกล้ชิดผู้ที่ติดเชื้อและตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้ ตลอดจนการทำความสะอาดฆ่าเชื้อ บิ๊กคลีนนิ่งในบริเวณต่างๆ อีกประการหนึ่ง โรงงานของไทยยูเนี่ยนทุกโรงยังคงเปิดดำเนินการตามปกติ เนื่องจากจำนวนพนักงานที่ได้รับผลกระทบมีอัตราและจำนวนที่น้อยมาก