กลายเป็นว่าตอนนี้วัคซีนม้าเต็งนี้ที่มีข่าวจากรัฐบาลอยู่ตลอดว่าจะสามารถทยอยส่งมอบให้กับประเทศไทยได้เพียง 5-6 ล้านโดสต่อเดือนเท่านั้น ซึ่งมาคำนวนยังไงก็ไม่มีทางทันสิ้นปี จนคุณ “สาธิต ปิตุเตชะ” ออกมายอมรับล่าสุดนี้ว่าไม่ทัน! จึงเป็นที่มาของการสั่งซื้อวัคซีน Sinovac เข้ามาเรื่อย ๆ เพื่อทดแทนในส่วนของวัคซีนที่ขาดหายไปตามกำหนด จนตอนนี้วัคซีนม้าเต็งหรือวัคซีนหลักของไทยกลับกลายเป็นวัคซีนที่ไม่ได้คุณภาพอย่าง Sinovac ไปแล้ว

จวบจนถึงข้อมูลนี้เป็นคำตอบได้ชัดเจนว่าทำไมรัฐบาลถึงผลักดันการฉีดวัคซีนสลับชนิดบ่อยขนาดนี้ด้วยก็เป็นได้ รวมไปถึงมูลเหตุที่เชื่อมโยงไปยังประเด็นเอกสารของพรรคก้าวไกล ที่มีการคาดดำปกปิดข้อมูลบางอย่างที่น่าสงสัย ก็มีความเป็นไปได้สูงเลยทีเดียว

ทั้งนี้ทาง AstraZeneca ระบุว่าสามารถส่งมอบวัคซีน 40% ของกำลังการผลิต 15 ล้านโดสต่อเดือนให้ประเทศไทย แต่ประเด็นสำคัญก็คือการประกาศใช้และจัดสรรวัคซีนของ AstraZeneca มีข่าวความราบรื่นมาอยู่ตลอดตั้งแต่ช่วงเดือน มิ.ย. ว่าสามารถส่งมอบวัคซีนที่ผลิตจาก บ.สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ได้ถึง 200 ล้านโดสในสิ้นปี แต่กลายเป็นว่าทั้งหมดนั้นดูเป็นการปกปิดข้อมูลทั้งสิ้น

จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่ถูกเปิดเผยออกมา ทำให้เราอดสงสัยไม่ได้ว่ารัฐบาลปล่อยให้เกิดสถานการณ์โกลาหลในการจัดสรรวัคซีนแบบนี้ได้อย่างไร เพราะกระบวนการเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลกับพี่น้องประชาชนโดยตรง ในเรื่องของการควบคุมการแพร่ระบาด ด้วยเหตุนี้ทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลนี้ลดหวบลงไปอีก

ที่มา : https://www.facebook.com/100044308452347/posts/361516778668601/?d=n