คดีแรกจบ!ดิว อริสรา / จากกรณีเกิดเหตุ นางสาว รัตน์ตินันท์ นิติรัตพันธ์ หรือ “กลอยใจ” เพื่อนสาวคนสนิทของ
เบลบุษยา ตั้งภากร ได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ดาราสาว ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์ บนเรือยอร์ช เป็นเหตุให้ ดิว อริสรา ได้รับบาดเจ็บ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดิว อริสราโพสต์เดือด!! คบสามีรวยจริง แต่ไม่ได้เปย์ ซื้อสิ่งของให้ตัวเองมาโดยตลอด..?
เห่อลูกคนแรก! “ดิว อริสรา-เซบาสเตียน” เตรียมเปย์หนัก ชาวเน็ตมีลุ้นเพศ?
เหตุเกิดเมื่อต้นเดือนเมษายนปี 2564 ซึ่งในคดีดังกล่าว ได้รับการเปิดเผยจาก นายสาคร ศิริชัย ทนายความส่วนตัวของสาว ดิว อริสรา
ว่าพนักงานสอบสวน สน. ปากคลองสาน ได้แจ้งข้อหา นางสาวรัตน์ตินันท์ ฯ ฐานทำร้ายร่างกายต่อมาเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2564
พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องนางสาวรัตน์ตินันท์ต่อศาลแขวงธนบุรีเป็นคดี หมายเลขดำที่ 898/2564
ระหว่าง พนักงานอัยการสำนักงานอัยการฝ่ายคดีศาลแขวง 7 โจทก์กับนางสาวรัตตินันท์ ฯ จำเลย ซึ่งคดีดังกล่าว นางสาวอริสรา ทองบริสุทธิ์
ในฐานะผู้เสียหาย ได้ยื่นคำร้องขอเป็นโจทก์ร่วมและยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งบังคับให้นางสาวรัตน์ตินันท์ ฯ ชดใช้ค่าสินใหม่ทดแทน
ความเสียหายในฐานะโจทก์ร่วม
ต่อมาเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ศาลแขวงธนบุรีได้มีคำพิพากษาว่าจำเลย (นางสาวรัตตินันท์ หรือ กลอยใจ) มีความผิดตามประมวลกฎหมาย
อาญามาตรา 391 ลงโทษปรับ 10,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงเหลือค่าปรับ 5,000 บาท
ส่วนค่าเสียหายในส่วนแพ่งศาลกำหนดค่ารักษาพยาบาล 2,753 และค่าเดินทางครั้งละ 1,000 บาท รวม 2 ครั้ง เป็นเงิน 2,000 บาท
รวมเป็นเงิน 4,753 บาท ค่าเสียหายต่อสภาพจิตใจอันไม่ใช่ตัวเงินตามมาตรา 446 ศาลกำหนดให้จำเลยชำระ 30,000 บาท รวมเป็นค่าสินใหม
ทดแทนความเสียหาย จำนวน 34,753 บาท ที่จะต้องชดใช้ให้กกับ ดิว อริสรา
เนื่องจากจำเลยได้วางเงินบรรเทาความเสียหายไว้ต่อศาล จำนวน 1,000 บาท ดังนั้น จึงจำเลย ต้องนำเงินส่วนดังกล่าวมาหักออก คงเหลือเงิน
ที่จำเลยจะต้องชำระ 31,753 บาท ซึ่งจำเลยจะต้องนำเงินมาชำระให้แก่ ดิว อริสรา ภายในกำหนด 30 วัน นับแต่วันที่ศาลพิพากษา แต่ปรากฏว่า
เมื่อครบกำหนดการปฏิบัติตามคำบังคับ ทีมทนายได้ตรวจสำนวนแล้วปรากฏว่าจำเลยไม่ได้นำเงินค่าเสียหายมาวางชำระเพิ่มเติม
ดังนั้น เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2565 ทางทนายความ จึงได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อขอให้ศาล
ออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี “ยึดทรัพย์สิน” ของจำเลยมาขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ให้แก่โจทก์ร่วมตามกฎหมาย
และศาลมีคำสั่งอนุญาตแล้ว
ซึ่งขั้นตอนต่อไปเป็นขั้นตอน ดำเนินการตั้งเรื่องเพื่อนำเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อยึดทรัพย์สินของจำเลยนำมาขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้
ตามคำพิพากษาต่อไป