หมอแถลง ยันไม่มีการแทรกคิวพิเศษ ยอมรับผิดทำน้องไส้ติ่งแตกเสียชีวิตเพราะการผ่าตัดล่าช้า
จากกรณีการผ่าตัดไส้ติ่งน้องต้นน้ำ เด็กชายอายุ 12 ปี เสียชีวิต ทำให้พ่อและแม่ของเด็กออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมผ่านสื่อ โดยระบุว่าหมอไม่ยอมทำการผ่าตัดและปล่อยให้รอนานถึง 2 วันหลังเข้ารับการรักษา แม้ว่าทางโรงพยาบาลต้นทางจะระบุไว้ชัดเจนว่าผู้ป่วยมีอาการไส้ติ่งอักเสบ
โดยเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.65 ทางโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ต้นทางที่เกิดเหตุดังกล่าวได้จัดการแถลงข่าวขึ้น เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวกำลังเป็นประเด็นสังคมที่หลายคนให้ความสนใจ จากคำบอกเล่าของพ่อที่บอกว่าพนักงานเปลระบุว่ามีเคสพิเศษ 2 ราย ได้แซงคิวผ่าตัดไปก่อนหน้านี้
นายแพทย์รักเกียรติ ประสงค์ดี รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ระบุว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า น้องต้นน้ำ มีอาการปวดท้องน้อยขวามาประมาณ 1 วัน และได้ทำการเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพุทไธสง หมอระบุว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ แล้วจึงส่งต่อมารักษาที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ และทำการตรวจประเมินซ้ำ พบว่าไส้ติ่งอักเสบเช่นเดียวกัน โดยแพทย์ได้ทำการระบุเวลาผ่าตัดไว้ที่ 17.00 น. ของวันที่ 29 พ.ค. ต่อมาพบว่าน้องมีอาการเปลี่ยนแปลง หัวใจเต้นแรงมากขึ้น หมอได้ทำการเพิ่มน้ำเกลือ ประกอบกับผู้ป่วยมีความสูง 163 น้ำหนัก 83 กก.อยู่ในสภาวะน้ำหนักมาก
ผู้ป่วยได้เข้าห้องผ่าตัด 23.30 น.แต่ในขณะนั้นห้องผ่าตัดมีอยู่ 3 ห้อง ห้องแรกผ่าตัดไส้เลื่อน และมีอาการลำไส้เน่า แพทย์ต้องการตัดต่อลำไส้ จากนั้นต้องทำการผ่าตัดคนไข้ที่มารอก่อนหน้านี้ เป็นผู้ป่วยช่องท้องอักเสบรุนแรง ผู้ป่วยรายที่ 2 ดังกล่าวผ่าตัดเสร็จประมาณ ตี 2 ของวันที่ 30 พ.ค.ส่วนห้องผ่าตัดอีกห้อง เป็นคนไข้อุบัติเหตุมีแผลเปิด กระดูกโผล่ หมอจึงต้องเร่งทำการผ่าตัด มี 2 ราย อีกรายหนึ่งช่วงใกล้เที่ยงคืน ซึ่งห้องผ่าตัดอีกห้องต้องผ่าตัดเด็กในครรภ์ และมีสภาวะหัวใจเต้นเร็ว โดยในการผ่าตัดก่อนหน้าน้อง ทางแพทย์ไม่สามารถประเมินเวลาการผ่าตัดได้แน่ชัด ว่าจะเสร็จสิ้นตอนไหน จึงแจ้งไปยังหอผู้ป่วยให้ส่งน้องต้นน้ำกลับไปยังห้องก่อน
ต่อมาแพทย์พบว่าน้องมีอาการหายใจเร็วขึ้น และตรวจพบว่ามีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด จากการผ่าตัด พบว่าไส้ติ่งแตก มีหนองอยู่โดยรอบ การผ่าตัดเสร็จเวลาประมาณ 14.00 น.ใช้เวลาในการผ่าตัด 45 นาที เนื่องจากสภาพก่อนผ่าตัดมีภาวะแย่ลง และมีการติดเชื้อในกระแสเลือด จึงส่งเข้ารักษาที่ห้อง ไอซียู และหัวใจน้องหยุดเต้นเมื่อเวลา 02.25 น.ของวันที่ 31 พ.ค.
ประเด็นเรื่องที่ผู้ปกครองน้องขัดข้องใจว่า มีการแทรกเคสพิเศษก่อนคิวของน้องหรือไม่ จากการสอบสวนแล้วไม่ได้มีเคสพิเศษใด ๆ ทุกเคสมีหลักฐานประกอบ เป็นเคสเร่งด่วน และมารับบริการก่อนหน้านี้ตามคิว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง