วันนี้ (1 ต.ค.2560) เป็นวันแรกที่รัฐบาลเปิดให้มีผู้มีบัตรสวัสดิการเพื่อผู้มีรายได้น้อย สามารถนำบัตรไปซื้อสินค้าได้ที่ร้านธงฟ้าประชารัฐที่เข้าร่วมโครงการ ทำให้หลายพื้นที่มีประชาชนจำนวนมากไปใช้สิทธิ์ ขณะเดียวกันพบปัญหาสัญญาณเครื่องรูดบัตรและผู้ใช้บัตรไม่ทราบวงเงินที่ได้รับ ทำให้เสียเวลาตรวจสอบวงเงินก่อนซื้อสินค้า
ช่วงเช้าวันนี้ (1 ต.ค.2560) ชาวบ้านที่ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี นำบัตรสวัสดิการไปรอใช้สิทธิกันอย่างคึกคัก โดยนางจันทรา ศรีวิเชียร ชาวบ้านใน อ.ศรีประจันต์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่รัฐบาลช่วยเหลือ แม้จะเป็นเงินไม่มากแต่ช่วยลดภาระค่าครองชีพได้ 300 บาทต่อเดือน โดยนำไปซื้อสินค้าจำเป็นไปใช้ในครัวเรือน
ขณะที่นายชัยยุทธิ์ พลเสน เจ้าของร้านค้าที่ร่วมโครงการใน อ.ศรีประจันต์ ระบุว่า สินค้าส่วนใหญ่ที่ชาวบ้านซื้อจะเป็นสินค้าจำเป็น เช่น ข้าวสาร น้ำมันพืช สบู่ ยาสีฟัน เป็นต้น
ซึ่งสินค้าในโครงการธงฟ้าประชารัฐ มีราคาถูกกว่าท้องตลาดร้อยละ 10-20 เช่น น้ำมันพืช ขนาด 1 ลิตร ขวดละ30 บาท, น้ำตาลทราย กิโลกรัมละ 24 บาท, ผงซักฟอก ถุงละ 8 บาท จากปกติ 10 บาท ซึ่งส่วนใหญ่พบว่ามีการรูดซื้อสินค้าเพียงครั้งเดียวตามวงในบัตรที่ได้รับ 200 บาท หรือ 300 บาท
ขณะเดียวกันก็พบปัญหาความล่าช้าของเครื่องรูดบัตร หรือเครื่องอีดีซี ที่มีปัญหาสัญญาณและมีเพียงเครื่องเดียว ซึ่งเจ้าของร้านต้องการให้แก้ปัญหา เพื่อให้ประชาชนไม่เสียเวลารอ ขณะที่ประชาชนยังไม่ทราบวงเงินที่ตนเองได้รับ จึงต้องไปเช็ควงเงินก่อนซื้อสินค้า ทำให้ต้องรอนาน รวมทั้งยังไม่ทราบว่าร้านค้าที่สามารถใช้บัตรได้มีที่ใดบ้าง
ทั้งนี้ ผู้มีบัตรสามารถซื้อสินค้าในร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการธงฟ้าประชารัฐได้เกือบทุกประเภท เช่น สินค้าอุปโภค บริโภค อุปกรณ์การศึกษา ปัจจัยทางการเกษตร ยกเว้นบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
นอกจากนี้ ยังสามารถนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปใช้บริการรถโดยสาร บขส. ในวงเงิน 500 บาทต่อเดือน, รถไฟ 500 บาทต่อเดือน, ค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อ 3 เดือน ขณะที่ผู้มีบัตรสวัสดิการในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล 7 จังหวัด ยังสามารถนำบัตรสวัสดิการไปใช้บริการรถเมล์ ข.ส.ม.ก. และรถไฟฟ้าบีทีเอส เดือนละ 500 บาท
ที่มา – thai PBS