เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

สามี…!! พร้อมมอบร่างภรรยาเป็นอาจารย์ใหญ่ หลังช็อกหมดสติ ลูกวิดีโอคอลหาพ่อ แต่ไม่ทันดูใจ สามีเผยจะดูแลลูกให้ดีที่สุด นำเส้นผม เล็บ สวดพระอภิธรรมแทน

จากกรณี นางสาวจริยาอายุ 31 ปี เกิดอาการช็อกหมดสติ ด้วยโรคประจำตัวภายในบ้านพัก ใน ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะที่อยู่กับลูกสาววัย 5 ปี ได้โทรไปบอกพ่อที่กำลังทำงานอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ให้กลับมาช่วยแม่แต่ไม่ทันเสียชีวิตก่อน ภาพที่ทุกคนพบเห็นสลดใจ เมื่อนายพีระพันธ์ อายุ 30 ปี สามีของผู้เสียชีวิตเดินทางกลับมาจากทำงานที่กรุงเทพมหานคร ร้องไห้ด้วยความเสียใจตลอดเวลา มีลูกสาว วัย 5 ปี คอยกอดและปลอบพ่อให้กำลังใจอยู่ตลอดเวลา บอกไม่ต้องเสียใจ ไม่ต้องร้องไห้นะเดี๋ยวแม่ก็กลับมา

ล่าสุด วันที่ 4 ก.พ. 66 ที่ สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา อ.พระนครศรีอยุธยา ทางครอบครัว นำร่างของนางสาวจริยา ผู้เสียชีวิตมาไว้เพื่อรอการตรวจร่างกายจากเจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดปทุมธานี หลังจากที่ผู้เสียชีวิตประสงค์มอบร่างให้เป็นอาจารย์ใหญ่ โดยมีสามีและลูกเตรียมนำดอกไม้มาไหว้และพบเจอกันครั้งสุดท้ายท่ามกลางความโศกเศร้า จากนั้น ครอบครัวก็เดินทางมาที่ วัดสุทธิรุจิราราม ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน ซึ่งนำเส้นผมของผู้เสียชีวิตมาทำพิธีทางศาสนาตามประเพณี โดยจะมีการสวดอธิธรรมศพ 3 คืน

 

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

-กัมพูชา…!! โพสต์เทียบ ลาย “หลุยส์ วิตตอง” คล้ายกับลาย “ผ้านางอัปสรา” รูปปั้นแกะสลักบนปราสาทหิน

-เขมรเดือด…!! “แก้ว รัมย์จง” นักกีฬา กุน ขแมร์ ชื่อดัง ลั่นคันมือคันเท้า-อยากปะทะ “บัวขาว บัญชาเมฆ”

 

นายพีระพันธ์ กล่าวว่า ลูกสาวพิมพ์มาบอกว่าแม่ล้มที่พื้นหมดสติ ตนจึงรีบวิดีโอคอล กลับไปพอเห็นภรรยาตกใจมาก รีบโทรหาเพื่อนบ้านให้ไปช่วย ส่วนตนรีบขับมอเตอร์ไซค์กลับมาทันที แต่ก็ไม่ทันภรรยาเสียชีวิตแล้ว ส่วนในความรักที่มีให้กันมานาน 10 กว่าปี ตั้งแต่มัธยมต้น แฟนอยู่ ม.3 ตนอยู่ ม.2 พอเรียนจบก็ห่างกันไป จนมาเจอกันอีกครั้งสมัยเรียนมหาวิทยาลัย กลับมาคบหากันอีกครั้งใช้ชีวิตร่วมกันจนลมหายใจสุดท้าย ซึ่งแฟนป่วยเป็นเบาหวานมาตั้งแต่ อายุ 10 ขวบ แต่เพิ่งมาเป็นโรคไต ต้องล้างไต เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ซึ่งเมื่อหลายปีก่อนก็อาการหนักแต่มาตอนนี้ดีขึ้น ไม่คิดว่าจะมาเสียชีวิต

ตอนเรียนจบก็ทำงานที่กรุงเทพ แฟนก็ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยอยู่แล้ว แต่พอมารู้ว่าป่วยเป็นโรคไต ต้องมีการฟอกไต ก็เลยไม่ให้แฟนทำงานรวมถึงเป็นช่วงที่มีลูกจึงให้เป็นแม่บ้านอยู่เลี้ยงลูก พอมาซื้อบ้านก็มาช่วยกันดูช่วยกันเลือก อยู่ด้วยกันแบบนี้มีความสุข โดยลูกสาวจะคอยช่วยดูแลแม่ในทุกอย่างทั้งเรื่องหยิบจับอะไรแทนทุกอย่าง หยิบยา หยิบอะไรได้ก็ช่วยเหลือหมดทุกอย่าง

“ผมจะไปทำงานที่กรุงเทพทุกวันไปกลับ 7 โมงเช้าออกจากบ้านไปส่งลูกที่โรงเรียนแล้วก็ไปทำงาน เลิกจากงานประจำก็จะมาวิ่งไรเดอร์ กลับบ้านอีกทีก็ประมาณ เที่ยงคืน หรือ 5 ทุ่มบ้างของทุกวัน ไม่เคยเหนื่อยไม่เคยท้อ ยินดีที่จะทำให้ครอบครัว อยากบอกแฟนครั้งสุดท้ายว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จะเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด เขามองดูอยู่จะได้มีความสุข ซึ่งร่างเขา เขาก็ตั้งใจที่จะบริจาคร่างกายให้ไปเป็นอาจารย์ใหญ่อีกด้วย” นายพีระพันธ์ กล่าว