ร.ต.อ.ตำแหน่ง รอง สว.อก.สภ.เสลภูมิ ปลอมตัวเป็นคนเก็บของเก่า จับโจรขโมยรถ จยย.ตามหอพักแถวๆ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด กว่า 20 คัน
พ.ต.อ.จตุรงค์ มหิทธิโชติ ผกก สภ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด พ.ต.ท ไพรรัตน์ บุปผา รอง ผกก.สืบสวน สภ.เสลภูมิ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เสลภูมิ รวมกันจับกุมตัวนายอาทร วงษ์พานิช อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดยโสธร พร้อมด้วยของกลางรถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ จำนวน 2 คัน พร้อมด้วยอุปกรณ์ต่างๆ และชุดที่ใช้ก่อเหตุ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาในเขตพื้นที่อำเภอเสลภูมิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามหอพักแถวๆ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ดได้หายไปจำนวนหลายสิบคัน ชุดสืบสวนจึงได้ลงพื้นที่หาข่าวอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งทราบเป้าหมายของกลุ่มคนร้าย จากนั้น ร.ต.อ.ประพาส บูระณะกิตติ ตำแหน่ง รอง สว.อำนวยการ สภ.เสลภูมิ ทำหน้าที่ประจำตู้ยามเกาะแก้วและชุดสืบสวน สภ.เสลภูมิ
จึงได้รวมกันวางแผน และให้ ร.ต.อ.ประพาส และอาสาอีก 1 คน ปลอมตัวเป็นคนเก็บของเก่า และออกตระเวนตามหอพักในเขตมหาวิทยาลัยราชภัฏ ร้อยเอ็ด จุดที่พบว่ารถ จยย.หายบ่อยๆ โดยทำภารกิจมาร่วมเดือน และจะออกตระเวนทุกคืน ตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนจนถึงตี 5 ทุกวัน จนกระทั่งในช่วงเวลาประมาณตี 3 ของวันที่ 18 มี.ค ขณะที่ ร.ต.อ.ประพาส กำลังแกล้งหาของเก่าอยู่ที่ถังขยะหน้าหอพักแห่งหนึ่งในเขตมหาวิทยาลัยราชภัฏ ร้อยเอ็ด ได้พบวัยรุ่นต้องสงสัยจำนวน 2 คนได้ขี่รถ จยย. วนเข้ามาภายในหอพักดังกล่าวหลายรอบ พร้อมกับเหมือนลงไปดูรถเป้าหมาย หลังจากแน่ใจแล้ว ร.ต.อ.ประพาส จึงเดินตามชายวัยรุ่น 1 คนที่เดินเข้าไปในหอพัก และกำลังจะทำการขโมยรถ จึงแสดงตัวเข้าจับกุมและจับกุมตัวได้ 1 คน ส่วนอีกคนอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีไปได้
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง หอพักแห่งหนึ่ง ภายในพื้นที่ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุที่ตำรวจได้ปลอมตัวเป็นคนเก็บของเก่า เข้าจับกุมตัวคนร้ายขโมยรถจักรยานยนต์กว่า 20 คัน
สอบถาม ร.ต.อ.ประพาส รองสารวัตรอำนวยการ สภ.เสลภูมิ ปฏิบัติหน้าที่สายตรวจตำบลเกาะแก้ว (ตำรวจที่ปลอมตัวเป็นคนเก็บของเก่า) เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งว่ามีเหตุโจรกรรมรถจักรยานยนต์ภายในพื้นที่มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด จำนวนมากกว่า 20 คัน ตนได้ร่วมประชุมกับชุดสายตรวจและชุดสืบสวน รวมถึงผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเสลภูมิ ร่วมกันหาวิธีการเข้าจับกุมตัวคนร้าย เนื่องจากตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด คนร้ายจะใส่หมวกกันน็อกปิดอำพรางใบหน้าเข้าก่อเหตุ ซึ่งไม่สามารถระบุตัวคนร้ายได้ จึงได้มีแนวความคิดว่าจะต้องทำอย่างไรถึงจะสามารถเข้าถึงตัวคนร้ายในขณะก่อเหตุซึ่งหน้า
จึงได้ปลอมตัวเป็นคนเก็บของเก่า โดยแฝงตัวไปเก็บของเก่าจริงๆ ตามหอพักนานกว่าหนึ่งสัปดาห์ จนมาพบตัวผู้ก่อเหตุในขณะที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านเข้ามาที่บริเวณจุดเกิดเหตุ ตนจึงประสานทีมปิดล้อม เพื่อเตรียมเข้าจับกุม ขณะที่เดินเข้าไปพบว่าคนร้ายพยายามจะวิ่งสวนออกมา เมื่อตรวจเช็กแล้วว่าไม่มีอาวุธ จึงได้เข้าจับกุมตัวไว้ได้ตามยุทธวิธี
ก็อยากฝากเตือนไปยังประชาชน และนักศึกษา ที่อยู่ภายในพื้นที่ให้ระมัดระวังกลุ่มผู้ก่อเหตุที่อาจจะแฝงตัวมาในลักษณะคนที่เข้ามาพักในหอแล้วจะอาศัยก่อเหตุกับรถจักรยานยนต์ที่ไม่ได้ล็อกคอ ก็อยากฝากไปถึงเจ้าของรถให้ระมัดระวังและเก็บทรัพย์สินของท่านให้ดี หากหายไปก็คงจะลำบากเพราะนักศึกษาส่วนมากก็จะต้องใช้รถจักรยานยนต์ในการขับไปมาระหว่างสถานศึกษากับที่พัก
ข่าวที่น่าสนใจ
กอดเอวรักกัน บิ๊กต่อ บิ๊กโจ๊ก เคลียร์ใจกันเรียบร้อย
“เศรษฐา” เรียก “บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก” เคลียร์ใจ ขอให้จบปมขัดแย้ง