วันที่ 10 มี.ค 2568 พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผบช.ปส.กล่าวภายหลังออกรายการโหนกระแส ถึง กรณีการเสียชีวิตของ ผกก.โจ้ ขณะถูกควบคุมตัวในเรือนจำว่า เรื่องนี้มีสองประเด็นสำคัญที่ต้องตรวจสอบ โดยในขั้นแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจ, อัยการ และแพทย์จะต้องร่วมกันตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือเกิดจากการกระทำของผู้อื่น
หากมีผู้อื่นเกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่จะต้องเปิดกล้องวงจรปิดของเรือนจำทั้งหมดในช่วง 24 ชั่วโมง เพื่อตรวจสอบว่าใครเข้าห้องของ ผกก.โจ้ ก่อนหรือหลังจากที่เขาเข้าไป ผลการชันสูตรพบร่องรอยการรัดที่อาจทำให้ขาดอากาศหายใจ แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นรอยรัดที่ไปถึงด้านหลังหรือไม่ และยังพบบาดแผลที่มือ ซึ่งต้องรอการตรวจสอบจากแพทย์เพิ่มเติม หากเป็นการฆ่าตัวตาย ต้องมีการผ่ากระเพาะเพื่อตรวจหาสารพิษหรือยาที่อาจเป็นสาเหตุ
พล.ต.ท.เรวัช กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่า ผกก.โจ้ ไม่น่าจะฆ่าตัวตาย เว้นแต่จะมีเหตุการณ์เศร้าสะเทือนใจอย่างมาก เช่น การที่เพื่อนร่วมรุ่นได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในขณะที่เขาต้องติดคุก แต่ยังไม่สามารถสรุปอะไรได้ ต้องรอการพิสูจน์ในส่วนนี้
นอกจากนี้ จากกรณีที่ อดีต ผกก.โจ้เคยก่อเหตุ นิสัยจริงๆก็ไม่ได้ใจคอโหดร้าย ก่อเหตุเพราะจับผู้ต้องหายาเสพติดได้ แต่ดันเอาถุงดำไปคลุมเขา จนขาดอากาศหายใจไป บางคนก็บอกเป็นเรื่อง เวรกรรม แต่ตอนที่รับสารภาพ มันก็ยอมรับคนเดียว บอกว่าลูกน้องไม่เกี่ยวนะ ถือว่าก็มีความเป็นลูกผู้ชายอยู่
ทั้งนี้ในส่วนของนิสัย ผกก.โจ้ มักจะนิ่งและรอบคอบ แต่เมื่อเข้าไปในเรือนจำ อาจเกิดการลืมตัวว่าเป็นนักโทษเหมือนกัน และเกิดการทะเลาะกับผู้ต้องขังคนอื่น จนทำให้เกิดปัญหากับเจ้าหน้าที่เรือนจำ ซึ่งต้องรอการตรวจสอบต่อไป