เหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.7 แมกนิจูดที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างไม่เพียงแต่ในเมียนมาเท่านั้น แต่ยังส่งแรงสั่นสะเทือนมาถึงประเทศไทยด้วย สถานการณ์ในเมืองมัณฑะเลย์ยังคงอยู่ในภาวะวิกฤต โดยยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดพุ่งสูงกว่า 1,700 รายแล้ว และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3,400 ราย รวมถึงผู้สูญหายอีกกว่า 300 ราย
ข่าวที่น่าสนใจ
เจ้าหน้าที่รวบกลางตลาด “อดีตหัวหน้าพรรค” ซุกหมายจับ 5 คดี ปลอมเอกสารอื้อ!
จ่อดำเนินคดีชาวจีน ดอดขนเอกสารโครงการตึกถล่ม ในพื้นที่หวงห้าม
ภาพถ่ายดาวเทียมจากบริษัท Planet Labs PB และ Maxar Technologies ได้เผยให้เห็นถึงความเสียหายอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ โดยพื้นที่สำคัญหลายแห่งของประเทศได้รับความเสียหายอย่างหนัก บ้านเรือนพังราบเป็นวงกว้าง สะพานข้ามแม่น้ำอายุกว่า 90 ปีซึ่งเป็นเส้นทางหลวงสำคัญที่เชื่อมระหว่างเมืองมัณฑะเลย์และย่างกุ้งได้รับความเสียหายบางส่วน นอกจากนี้ วัดวาอารามสำคัญหลายแห่งในกรุงเนปยีดอ เมืองหลวงของเมียนมา ก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักเช่นกัน
ตามรายงานจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) แผ่นดินไหวครั้งนี้นับเป็นแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในเมียนมาในรอบกว่า 100 ปี โดยความเสียหายครอบคลุมหลายพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เข้าถึงยากและได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศมาตั้งแต่ปี 2564
เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงดำเนินการค้นหาผู้รอดชีวิตอย่างต่อเนื่องท่ามกลางซากปรักหักพังของอาคารต่างๆ ที่พังถล่มลงมา ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจต้องใช้เวลานานหลายสัปดาห์ในการฟื้นฟู
นอกจากนี้ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ยังได้เผยแพร่ภาพถ่ายจากดาวเทียม THEOS-2 ซึ่งบันทึกภาพเมื่อเวลา 10:05 น. ของวันที่ 29 มีนาคม 2568 เปรียบเทียบกับภาพก่อนเกิดเหตุ แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของเมืองมัณฑะเลย์อย่างชัดเจน