วันที่ 16 พ.ค. 2568 ตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. / สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. นำหมายค้นเข้าตรวจค้นภายในกุฎิของอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ได้มีการตรวจยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอกสารรายรับรายจ่าย 10 ลัง เกือบ 100 แฟ้ม ใส่ในลังขนขึ้นรถ
ซึ่งทั้งหมดเป็นหลักฐานประกอบกับสำนวนที่จะไปประกอบคำให้การของอดีตเจ้าคุณแย้ม โดยตำรวจนำหลักฐานทั้งหมดไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน ก่อนจะนำหลักฐานทั้งหมดไปที่สอบสวนกลาง
ทั้งนี้ ยังมีรายงานอีกว่า พระคนสนิทของอดีตท่านเจ้าคุณแย้ม เป็นพระผู้ช่วยที่จำวัดกุฎิเดียวกับอดีตท่านเจ้าคุณ และรู้เห็นทุกอย่าง รวมถึงเป็นคนนำเงินจากอดีตท่านเจ้าคุณแย้มโอนไปยังบัญชีของ น.ส.อรัญญาวรรณ รวมแล้วกว่า 600 ล้าน รวมถึงยังมีบัญชีของคนสนิทที่ได้เงินจากอดีตท่านเจ้าคุณแย้ม และโอนไปให้ น.ส.อรัญญาวรรณ รวมแล้วเป็นเงิน 847 ล้านบาท
และการเก็บหลักฐานพบบัญชีธนาคารของมูลนิธิภายในวัดอีกกว่า 10 บัญชี ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบยอดเงิน และยังบอกอีกว่าขณะนี้ได้เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องไปสอบปากคำ ทั้งฆารวาสที่ทำธุรกิจภายในวัด ซึ่งรายละเอียดยังไม่สามารถบอกได้ในขณะนี้
โดยเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำไวยาวัจกรวัด 2 คน จากทั้งหมด 3 คน คือ นายชาตรี สุขถาวร ไวยาวัจกรวัด เป็นอดีตกำนันตำบลไร่ขิง และพรเทพ ปัถวี ส่วน นายสันติ อนุตโต ไวยาวัจกรวัดคนที่ 3 ไม่ได้มาให้ปากคำ เนื่องจากชราภาพแล้ว เดินไม่ไหว และไม่ค่อยได้ยุ่งเกี่ยวกับธุรกรรมของวัด
หลังจากสอบปากคำกว่า 5 ชั่วโมง นายชาตรี สุขถาวร ไวยาวัจกรวัด และเป็นอดีตกำนันตำบลไร่ขิง เผยว่า ตอนนี้เงินวัดไร่ขิงคงเหลือไม่กี่ล้าน แต่ไม่ทราบจำนวนล่าสุดอาจจะไม่ถึง 10 ล้านบาท วัดไร่ขิงไม่มีเงินเป็น 100 ล้านบาทแล้วตั้งแต่ช่วงโควิดเป็นต้นมา รายได้ของวัดก็ไม่ได้มาก ไหนจะเงินที่จะเอาไปใช้ก่อสร้างเสนาสนะต่างๆ เงินก็หมดไป เหลือในบัญชีวัดไม่กี่ล้านบาท
ส่วนการเบิกจ่ายเงินของวัด ปกติจะมีไวยาวัจกรที่เปิดบัญชีร่วมอยู่ 3 คน ที่เหลือก็จะเป็นเจ้าอาวาสเปิดบัญชีร่วมกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสกว่า 10 คน มีธนาคารหลาย 10 บัญชี แต่ที่ตัวเองเปิดบัญชีร่วมกับเจ้าอาวาสมีประมาณ 5 บัญชี มีเงินไม่กี่ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่การเบิกจ่ายจะต้องมีใบฏีกาแจ้งหนี้ ถึงจะเซ็นร่วม ซึ่งมียอดเบิกตั้งแต่หลักหมื่นถึง 2 ล้านบาท และจะต้องเช็คว่าใช้จ่ายถูกต้องหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาการเบิกจ่ายบัญชีธนาคารที่ตัวเองเปิดร่วมไม่เคยพบความผิดปกติ
ส่วนบัญชีอื่นๆ ที่เจ้าอาวาสเปิดร่วมกับผู้ช่วยเจ้าอาวาส 10 คน ตัวเองไม่รู้เรื่องในเรื่องของการเบิกจ่าย หากถามว่าอดีตเจ้าคุณแย้มบวชมานานมีคนศรัทธามากและทำบุญมาคิดว่าน่าจะมีเงินหลัก 100 ล้านหรือเปล่านั้น ไม่รู้เรื่องการใช้จ่ายส่วนตัว
ส่วนกรณีที่บอกว่าเวลาอดีตเจ้าคุณแย้มไปทำบุญ สายเปย์ หรือไปสร้างพระต้องใช้มาก จริงหรือเปล่า นายชาตรีบอกว่าก็ไม่น่าจะเป็นความจริง เพราะถ้าการเบิกจ่ายในนามมูลนิธิวัดไร่ขิง ก็จะต้องมีมติของกรรมการมูลนิธิ และเบิกได้ครั้งละไม่เกิน 100,000 บาท
ส่วนเรื่องผู้หญิงที่เข้ามาพัวพันตัวเองก็ไม่ทราบ เพราะส่วนใหญ่ก็มีแต่ลูกศิษย์ลูกหา ครูอาจารย์ และศิษย์เก่าของวัดไร่ขิง ไม่เคยเห็นอยู่กับผู้หญิงในที่ลับตาหรือสองต่อสอง และไม่รู้ว่ามีการโอนเงินไปให้กันอย่างไร แต่การเบิกจ่ายผ่านตัวเองจะไม่มีการโอนเงินไปหรือจ่ายโดยไม่มีที่ไปที่มา ก็เลยไม่รู้ว่าไปเบิกจ่ายบัญชีที่เปิดร่วมกับบุคคลอื่นหรือเปล่า อย่างผู้ช่วยเจ้าอาวาสที่มีมากกว่า 10 คน
ส่วนการเบิกจ่ายจะไม่มีกรรมการวัดมาเกี่ยวข้อง ซึ่งกรรมการวัดจะมีเฉพาะช่วยงานประจำปี ไม่ได้มาร่วมเบิกจ่ายเงินวัด ยอมรับว่าตกใจที่มีข้อมูลว่าอดีตเจ้าคุณแย้มมีการโอนเงินไปให้ผู้หญิงและเกี่ยวข้องกับเว็บพนันหลักร้อยล้านบาท ซึ่งไม่คิดว่าอดีตเจ้าคุณแย้มจะมีเงินมากขนาดนั้น ส่วนคนขับรถที่ถูกคุมตัวไปสอบสวนก็ถือว่าเป็นคนใกล้ชิดเป็นอดีตพระ และขับรถให้กับอดีตท่านเจ้าคุณแย้มมากว่า 10 ปี ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีส่วนรู้เห็นด้วยหรือเปล่า