หัวร้อนกลายเป็นซึ้ง! เจ้าของรถ จยย. ตามเจอขโมย กระทืบก่อนจับมือให้อภัย เช็ดเลือดให้ – ไม่เอาความเพราะ “สงสาร” ที่ถูกเมียทิ้ง

อุดรธานี – วันที่ 19 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 17.00 น. เกิดเหตุชายวัย 55 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น ถูกทำร้ายร่างกายกลางถนนในพื้นที่ตำบลหมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังขี่รถจักรยานยนต์ผู้อื่นไปโดยเข้าใจผิดว่าเป็นคันที่ยืมมา

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมอาสากู้ภัยจากมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบร่างชายวัย 55 ปี มีแผลแตกที่ศีรษะ เล่าให้ตำรวจฟังว่า ตนเป็นลูกจ้างร้านเสื้อผ้าและช่างตัดผม ก่อนเกิดเหตุได้ยืมรถจักรยานยนต์สีแดงขาวของคนรู้จักไปทำธุระ แต่เมื่อขี่มาคืน ไม่ได้คืนกุญแจรถ

ระหว่างทางกลับ ตนพบจักรยานยนต์รุ่นและทรงคล้ายกัน สีฟ้าขาว จอดอยู่ริมถนน จึงเข้าใจผิดว่าเป็นคันเดิมที่ยืมมา ใช้กุญแจไขแล้วขี่ไปตลาดรถไฟเพื่อหาซื้อสายชาร์จโทรศัพท์

แต่ระหว่างทาง เจ้าของตัวจริงวัย 54 ปี ชาวอุดรธานี ซึ่งจอดรถไว้แล้วเข้าไปทำธุระ ได้ออกมาตามหาจนพบผู้ก่อเหตุขี่รถของตนไป ด้วยความโมโหจึงปรี่เข้าไปทำร้ายร่างกาย ด้วยการกระทืบและกดศีรษะลงกับพื้นถนน พร้อมสั่งสอนเสียงดังว่า “จำใส่กะโหลกมึงไว้ อย่าไปหาลักขโมยของใครอีก”

ภายหลังเหตุการณ์สงบลง ผู้ก่อเหตุได้ยกมือไหว้ขอโทษ ขณะที่เจ้าของรถก็รับไหว้และกล่าวขอโทษเช่นกัน ก่อนทั้งสองจะโอบกอดให้อภัยกันกลางถนน เจ้าของรถยังใช้เสื้อเช็ดเลือดบนใบหน้าคู่กรณีด้วยความสงสาร

เขาเผยว่า “ไม่ติดใจเอาความ เพราะสงสาร เห็นว่าโดนเมียทิ้ง ไม่มีที่ไป ถ้าติดคุกก็ไม่รู้จะมีใครดูแล”

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำผู้บาดเจ็บส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ก่อนจะปล่อยตัวกลับบ้าน ไม่มีการดำเนินคดีแต่อย่างใด

เหตุการณ์นี้สะท้อนว่า บางครั้งความเข้าใจผิดและความโมโห ก็สามารถจบลงได้ด้วย “ความเห็นใจ” และ “การให้อภัย”.