เมื่อเวลา 09.25 น. วันที่ 21 ต.ค. 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีถูก ส.ส.พรรคประชาชน พาดพิงว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์ โดยยืนยันว่า ก่อนเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมือง ตนได้แสดงบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. อย่างถูกต้อง และไม่ได้ร่ำรวยผิดปกติ
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวชี้แจงว่า ตนทำธุรกิจมาก่อนเป็นนักการเมือง ไม่เคยปฏิเสธว่าทำธุรกิจ ทั้งธุรกิจรถเมล์กว่า 300 คัน, สลากกินแบ่งรัฐบาล, ตลาดสด และอสังหาริมทรัพย์ แต่ “ไม่เคยทำธุรกิจบนความทุกข์ของประชาชน” พร้อมยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มสแกมเมอร์ และได้ให้ข้อมูลกับตำรวจไซเบอร์ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง
“ที่มีคนพยายามบอกว่าผมทำอาชีพสีเทา — ยืนยันว่าไม่เคย! ผมผ่านกระบวนการยุติธรรมมาหมดแล้ว และพร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ไม่ใช้วิธีฟ้องปิดปาก แต่ถ้าใครพูดเท็จ ก็ต้องฟ้องเพื่อพิสูจน์ความจริง”
เมื่อถูกถามถึงกรณีฝ่ายค้านเชื่อมโยงความสัมพันธ์กับ นายเบน สมิธ ว่าอาจเกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์ ร.อ.ธรรมนัส ย้ำว่าได้ชี้แจงไปหมดแล้ว และขออย่ากล่าวหาก่อนจะมีคำพิพากษา
“อย่าเพิ่งตัดสินว่านายเบน สมิธ เป็นสแกมเมอร์ เพราะเป็นเรื่องของฝ่ายกฎหมายสหรัฐฯ ต้องให้กระบวนการเป็นผู้พิสูจน์ก่อน”
สำหรับกรณีที่ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีปลดตนพ้นตำแหน่งนั้น ร.อ.ธรรมนัส ตอบสั้นแต่ชัดว่า
“คนที่จะปลดผมได้คือ นายกฯ ส่วน ส.ส.จะตรวจสอบก็ทำไป ผมพร้อมให้ตรวจสอบเหมือนกัน”
พร้อมย้ำว่าขณะนี้มุ่งทำงานในฝ่ายบริหารอย่างเต็มที่ โดยกำชับคนในพรรคและผู้มีตำแหน่งทางการเมืองให้ทุ่มเททำงานเพื่อประชาชน แก้ปัญหาเศรษฐกิจและความมั่นคง
“ผมทำงานไม่มีวันหยุด และถ้ามีปัญหาอะไร ก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่อยากเป็นภาระใคร”
ข่าวนี้สะท้อนจุดยืนของ ร.อ.ธรรมนัส ที่ยังคงมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตน และย้ำชัดว่า “ไม่มีสีเทา มีแต่ทำเพื่อประชาชนเท่านั้น.”
ข่าวที่น่าสนใจ
ทหารเมียนมา บุกพื้นที่สแกมเมอร์ชาวจีน บริเวณเคเคปาร์ค จับได้ 2 พันกว่าคน
กัมพูชางอแง ฟ้องเลขาธิการรัฐสภาโลก อ้างสื่อไทยเสนอข่าวแง่ร้าย สร้างภาพลบให้เขมร