ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ถามความคิดเห็นในกลุ่ม “พวกเราคือผู้บริโภค” หลังเกิดเหตุไม่คาดคิดกับลูกสาววัย 15 ปี ที่ไปทำฟันในคลินิกแห่งหนึ่ง แล้วเก้าอี้ทำฟันเกิดหักระหว่างจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ แต่กลับถูกคลินิกเรียกเก็บเงินค่าซ่อมครึ่งหนึ่ง จำนวน 2,000 บาท
เจ้าของโพสต์เล่าว่า ระหว่างน้องกำลังจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ ได้ใช้มือท้าวบริเวณที่วางแขนเพื่อขยับตัว ก่อนจะมีเสียงดังคล้ายของร้าวและพบว่าเก้าอี้หัก โดยน้องมีน้ำหนักเพียง 45 กิโลกรัม หลังทำฟันเสร็จทันตแพทย์เพียงแจ้งว่า “เก้าอี้แตก” แต่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องค่าเสียหาย
กระทั่งผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์ เจ้าหน้าที่คลินิกโทรหาผู้ปกครอง แจ้งว่าน้องทำเก้าอี้เสียหาย และคุณหมอเจ้าของคลินิกขอให้ช่วยรับผิดชอบครึ่งหนึ่ง เป็นเงิน 2,000 บาท โดยให้เหตุผลว่า “ประกันอุปกรณ์หมดแล้ว”
ผู้ปกครองตั้งข้อสงสัยว่า อุปกรณ์ในคลินิกควรมีมาตรฐานและการรับประกันความปลอดภัย หากเก้าอี้เกิดชำรุดจากการใช้งานปกติ น่าจะอยู่ในความรับผิดชอบของคลินิก ไม่ใช่ของคนไข้ พร้อมตั้งคำถามกลับว่า “ถ้าน้องตกจากเก้าอี้แล้วบาดเจ็บ คลินิกจะรับผิดชอบอย่างไร?” ซึ่งเจ้าหน้าที่เพียงตอบว่า “ก็ปฐมพยาบาลให้น้องค่ะ”
หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่า “ไม่ควรจ่าย” เพราะถือเป็นความรับผิดชอบของคลินิกที่ต้องตรวจสอบสภาพอุปกรณ์ให้ปลอดภัยก่อนให้บริการ หลายคนยังแนะให้แจ้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหรือหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคเข้าตรวจสอบ เพื่อความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย.
ที่มา Facebook
ข่าวที่น่าสนใจ
อวสานสายนั่งแช่! 8 พ.ย. นี้ กฎหมายใหม่มาแล้ว นั่งดื่มในร้านหลังเที่ยงคืน โดนปรับจุกๆ 1 หมื่น!
น้ำทะเลหนุนสูง น้ำเจ้าพระยา ทะลักเข้าท่วม พระราม 3 บางจุดสูงถึงเข่า