เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันนี้ ( 11 พ.ย.68 ) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) จับกุม  น.ส.น้ำผึ้ง อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 4 คดี ซึ่งเป็นเครือข่ายบัญชีม้า สนับสนุนแก๊งคอลเซนเตอร์ โดยจับกุมได้ที่  ร้านอาหารไม่มีชื่อ ริมถนนวิสุทธิกษัตริย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร หลังพบว่า น.ส.น้ำผึ้ง รับจ้างเปิดบัญชีม้า และรับจ้างจดทะเบียนนิติบุคคล ให้กับบุคคลอื่น เพื่อใช้ในการกระทำความผิด และพบว่าเมื่อช่วงประมาณ เดือนตุลาคม พ.ศ.2567 ผู้ต้องหาได้รับการแนะนำจาก “น.ส.ตูน” ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน ซึ่งมีพฤติกรรมในการจัดหาคนไปเปิดบัญชีม้าให้กับนายทุน ชาวจีนที่ทำงานอยู่ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา

จากนั้น“น.ส.ตูน” ได้แนะนำให้รู้จักกับ “นายเปี๊ยก” ไม่ทราบชื่อ-นามสกุล ซึ่งเป็นนายหน้าอีกคน พาไปเปิดบัญชี โดยผู้ต้องหารู้ดีว่าจะมีการนำบัญชีไปใช้ในการกระทำความผิด ได้รับค่าตอบแทนในการเปิดบัญชี และนำชื่อไปจดทะเบียนนิติบุคคล 25,000 บาท โดยบริษัทที่เปิด จะทำเกี่ยวกับการบริการรับเป็นผู้จัดการและดูแล ผลประโยชน์จัดการทรัพย์สินให้บุคคลอื่น ต่อมาได้มีการนำนิติบุคคลดังกล่าว ไปใช้ในการหลอกลวงลงทุน โดยกลุ่มขบวนการได้ มีการสร้างเพจ และเว็บไซต์ปลอมหลายเพจ ให้ทำการเทรดหุ้น เมื่อผู้เสียหายหลงกล จะชักชวนให้ผู้เสียหาย เข้ากลุ่มไลน์ ใช้ชื่อกลุ่มไลน์ว่า AROWWIN  ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ อ้างว่าเพื่อเรียนรู้ การเทรดหุ้น ชักชวนลงทุนผ่านเว็บไซด์ และพบว่าบัญชีของ น.ส.น้ำผึ้ง ได้ถูกนำไปใช้ใน การหลอกผู้เสียหายในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ , จ.นครราชสีมา และกรุงเทพมหานคร มีผู้เสียหายโอนเงินไปกว่า 50 ล้านบาท

ตำรวจ กก.2 บก.ปอศ. ได้สืบสวนพบว่าผู้ต้องหาหลบหนีมาทำงานที่ ร้านอาหารที่จับกุม จึงได้แสดงตัวจับกุม เมื่อตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่าผู้ต้องหา มีหมายจับอีก 4 หมายในหลายท้องที่ จึงแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ครบุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจาก “นายเปี๊ยก” โดยได้เดินทางไปที่กัมพูชา ผ่านช่องทางธรรมชาติ และอยู่กับขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ มีบอสเป็นชาวจีน ในการควบคุมสั่งการ โดยตนมีหน้าที่ในการแสกนหน้า กับบัญชีธนาคาร เมื่อมีผู้โอนเงินเข้าบัญชี โดยไม่ทราบว่ามีการโอนต่อไปยังที่ใด ซึ่งมีคนไทยและคนต่างชาติ อยู่ในสถานที่นั้นจำนวนกว่า กว่า 30 คน