เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

นายอุม เรียไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ย พร้อมด้วยกองทัพกัมพูชา ได้นำคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) ลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน เพื่อตรวจสอบอาการบาดเจ็บของพลเรือนชาวกัมพูชา 3 ราย ซึ่งกำลังรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU ของโรงพยาบาลมิตรภาพกัมพูชา-ญี่ปุ่น มงคลบุรี เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 68 เวลา 08.20 น. ที่เพจ Army Military Force ได้นำมาแชร์ไว้

พร้อมระบุข้อความอีกว่า นายอุม เรียไตร ได้พยายามบิดเบือนและให้ข้อมูลที่เป็นความเท็จแก่คณะ AOT

โดยกล่าวอ้างว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากการที่ทหารไทยกราดยิงพลเรือนชาวกัมพูชาที่หมู่บ้านเปรยจัน จังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ย เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ก่อนจะมีการกล่าวหาป้ายสีทหารไทยในสังคมออนไลน์กัมพูชาอย่างกว้างขวาง

นอกจากนี้ เพจ Army Military Force ยังโพสต์คลิปพร้อมข้อความที่หมอ – นักการเมืองของกัมพูชาให้สัมภาษณ์นักข่าวกลางห้อง ICU ระหว่างทำการรักษาพลเรือนกัมพูชาทั้ง 3 ราย ที่อ้างว่าพวกเขาอยู่ในอาการโคมาและยังไม่พ้นวิกฤติ หลังถูกทหารไทยใช้ปืนกลเบาโซเวียต RPD ยิง ชาวบ้านในชุมชนบ้านเปรยจัน จนเสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บอีก 3 ราย

โดยคลิปวิดีโอเผยให้เห็นผู้ที่อ้างว่าเป็นแพทย์ ผอ.รพ.สาธารณสุข จ.บ็อนเตียย์เมียนเจ็ย กล่าวว่า “วันนี้ได้รับอนุญาตจากท่านผู้ว่าฯ มาให้ข่าวกับผู้สื่อข่าว เกี่ยวกับกรณีประชาชนของเรา ได้รับบาดเจ็บจากการที่ทหารไทยเปิดฉากยิง”

“มาถึงตอนนี้ผมขอเรียนว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บถูกส่งมาที่โรงพยาบาลมิตรภาพกัมพูชา-ญี่ปุ่น มงคลบุรี มีจำนวน 3 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต ขอให้ผู้สื่อข่าวไม่ทำข่าวแบบนี้”

“วันนี้ผมกับท่านพร้อมคณะทำงานของโรงพยาบาลมิตรภาพกัมพูชา-จีน พระกุสุมา ราชธานีพนมเปญ ได้ทำการช่วยเหลือใน 3 กรณีนี้ ท่าน ผอ.รพ.มิตรภาพกัมพูชา-จีน ได้เข้าร่วมด้วยตัวท่านเอง พร้อมเจ้าหน้าที่ของเรา มาจนถึงตอนนี้ เราผ่าตัดด้วยดีทั้ง 3 ราย เดี๋ยวท่าน ผอ.จะชี้แจงเป็นกรณีว่ามีผลกระทบอะไรบ้าง ขอให้ผู้สื่อข่าวได้ทราบ และเพื่อไม่ให้มีการเผยแพร่ข่าวที่ผิดไปจากข้อเท็จจริง”

เพจ Army Military Force ยังโพสต์ด้วยว่า ข้อเท็จจริง ทหารกัมพูชาใช้อาวุธปืนเล็ก AK-47 ยิงเข้ามาฝั่งไทย กว่า 30 นัด เพื่อสร้างสถานการณ์และยังกราดยิงพลเรือนตนเอง ก่อนป้ายสีทหารไทย

อย่างไรก็ตาม กองกำลังบูรพาได้ยิงเตือนทหารกัมพูชา และดำเนินการโต้ตอบเหตุการณ์ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก่อนสถานการณ์จะสงบลง

และ กองทัพไทยเลือกประจำการปืนกลเบาที่มาจากมาตรฐานของกลุ่มประเทศนาโต (NATO) เป็นหลัก โดยไม่เคยมีประวัติการประจำการปืนกลเบาที่มาจากมาตรฐานโซเวียต เช่น รุ่น RPD (Ruchnoy Pulemyot Degtyaryova) ในการใช้งานอย่างเป็นทางการ