“สันธนะ” แฉสนั่น! อ้างนายพลยศ พล.ต.อ. โทรเคลียร์ก่อนถูกจับ เตรียมเปิดโปงเครือข่ายส่วย – ท้า “นายกฯหนู-เนวิน” พบกันบนถนนการเมือง

มื่อเวลา 08.15 น. วันที่ 14 พ.ย. 2568 ที่ สน.ทองหล่อ พนักงานสอบสวนควบคุมตัว นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล พร้อมพวก 4 คน ผู้ต้องหาในคดี อั้งยี่ ซ่องโจร และร่วมกันอุ้มรีดทรัพย์ชาวไต้หวัน ปี 2564 ส่งมอบให้อัยการศาลอาญากรุงเทพใต้เพื่อดำเนินการฟ้องในวันนี้

ระหว่างถูกนำตัวออกจากโรงพัก นายสันธนะ เปิดใจว่า ตลอดคืนที่ผ่านมา “ไม่ได้นอนเลย” เพราะต้องดูแลลูกน้องในห้องขัง ย้ำไม่ได้เสพยา แต่เป็นเพราะความเป็น “ลูกพี่” ที่ต้องรับผิดชอบลูกทีม

 อ้างมี “พล.ต.อ.” โทรคุยก่อนถูกจับ – ลั่นเตรียมแฉนายพลหลายราย

นายสันธนะ กล่าวถึงกระแสข่าวที่มีนายตำรวจยศ พล.ต.อ. โทรศัพท์มาพูดคุยก่อนเข้าจับกุม โดยยืนยันว่าเป็นนายพลที่ยังรับราชการอยู่ พร้อมประกาศว่า หลังจากนี้ตนจะ “แฉ” นายพลหลายคนที่เกี่ยวข้องกับคดีเก่า ๆ ที่ทำให้ตนเสียหาย

เจ้าตัวย้ำว่า หมายจับที่ออกตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย. เป็น “คดีเก่าที่ถูกขุดขึ้นมาเพื่อกลั่นแกล้ง” มองว่าไม่ยุติธรรม และยืนยันว่าตน “ไม่ผิด” แต่ถูกพรากเสรีภาพอย่างไม่เป็นธรรม

 แจงเหตุปะทะชุดจับกุม – ปัดหมวกหรือเปิดหมวก?

สำหรับเหตุการณ์ปะทะกับ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้การสืบสวน ที่นำกำลังเข้าจับกุมจนเกิดภาพคล้ายการปัดหมวกกันนั้น นายสันธนะ ปฏิเสธว่าไม่ใช่การปัดแบบก้าวร้าว แต่เป็นเพียง “การเปิดหมวก” เพราะเคยเป็นคู่ขัดแย้งมาก่อนสมัยอีกฝ่ายเป็น ผกก.สน.คลองตัน และอยากเห็นหน้าให้ชัด

เขายืนยันว่าไม่ได้กระทำด้วยอารมณ์ แต่เมื่อชุดจับกุม “ไม่ให้เกียรติ” และพยายามใส่กุญแจมือ ตนก็ “ไม่จำเป็นต้องให้เกียรติกลับ” เพราะศาลยังไม่ได้ตัดสินว่าตนผิด

ท้า “เน–หนู” พบกันบนถนนการเมือง

เมื่อถูกถามถึงเส้นทางการเมือง นายสันธนะ เปิดเผยว่า ยังไม่ระบุพรรค แต่ทิ้งประโยคท้าทายถึงสองนักการเมืองชื่อดังว่า
“พบกันบนเส้นทางการเมือง”
พร้อมปิดท้ายว่า “สำหรับผม มีแต่มิตรแท้ แต่ศัตรูถาวร”

 ตำรวจคุมเข้ม – จับเพิ่มผู้ต้องหารายที่ 5

ด้านตำรวจ สน.ทองหล่อ จัดรถตู้พร้อมชุดเคลื่อนที่เร็วประกบหน้า-หลัง และรถกระบะอีก 1 คัน เพื่อรักษาความปลอดภัยระหว่างนำตัวผู้ต้องหาไปศาล ทั้งยังมีรายงานว่า ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหารายที่ 5 ในคดีเดียวกันได้แล้ว อยู่ระหว่างนำตัวส่งพนักงานสอบสวนก่อนส่งต่อให้ศาลในช่วงบ่าย

คดีนี้เกิดจากการที่ผู้ต้องหาทั้งหมดไม่ไปรายงานตัวต่ออัยการตั้งแต่ปี 2567 โดยอ้างว่าขอความเป็นธรรม ทำให้อัยการต้องมอบหมายให้ตำรวจขอศาลออกหมายจับ จนนำไปสู่การจับกุมเมื่อวันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สะเทือนวงการ! “สันธนะ” โวยลั่นถูกหักหลัง โดนบุกรวบคาคอนโดหรู ลั่น! อย่าเปิดศึกกับผม เดี๋ยวจะวุ่นวาย!

พอทหารไทยเหยียบกับระเบิด แทนที่เราจะบอกว่า กัมพูชาขวางกระบวนการสันติภาพ คุณละเมิด นานาชาติต้องถล่มประณาม คว่ำบาตร แต่ประเทศไทย ไปบอกว่าทหารไทยเสียขา กูฉีกสัญญาเลย ดิฉันขอเรียกสิ่งนี้ว่าเป็นการทูตที่ไร้สติ