เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

อย่างที่มราบกันเป็นอย่างดีปัจจุบันอัตราผู้ป่วยโรคมะเร็ง เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันนอกจากการแพทย์แผนปัจจุบัน ผู้ป่วยบางส่วนยังฝากความหวังไว้ที่การแพทย์ทางเลือก สมุนไพร หมอบ้าน ที่ยังคงถกเถียงกันว่า สามารถช่วยให้ผู้ป่วยดีขึ้นได้จริงหรือไม่ เนื่องจากยังไม่มีผลการวิจัยถึงผลการรักษาอย่างจริงจังว่าเป็นอย่างไร แพทย์แผนปัจจุบันจึงยึดแนวทางการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด เป็นหลักและมักห้ามไม่ให้ผู้ป่วยรับยาอื่น เพราะกลัวว่าจะทำให้โรคทรุดลง

โดยล่าสุด แพทย์แผนปัจจุบันคนหนึ่ง ได้โพสต์เตือนถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยมะเร็ง หลังจากไปรับยากับแพทย์แผนทางเลือกชื่อดัง โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า ภัยของยาอันตราย วันนี้อยากจะเล่าเรื่องไว้เป็นอุทาหรณ์ให้ผู้ป่วยโรคมะเร็ง (และไม่ใช่โรคมะเร็ง) ได้รู้ถึงภัยของยาสมุนไพรที่ไม่ทราบที่มา/ความปลอดภัยกันนะครับ วันนี้ตรวจผู้ป่วยรายหนึ่ง รักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดกันมาร่วมปี ผลการตอบสนองดีและกำลังจะดำเนินการปลูกถ่ายไขกระดูกต่อ ปรากฎว่าผู้ป่วยไปกินยาสมุนไพรของคุณแสง (ไม่ใช่หมอนะ! อย่าเรียกกันผิด สื่อไทยไม่ค่อยรับผิดชอบกันเลยประเด็นนี้) เพราะไปเชื่อญาติเอย เพื่อนบ้านเอย

หากคนไข้ไปกินยาอื่นมาก็ให้รีบแจ้งหมอกันตรงๆครับ จะได้ติดตามผลเสียได้ทันท่วงที ลองคิดดูว่าถ้าเกิดรายนี้ไม่มีการเจาะเลือดดู ผมคงไม่มีทางรู้ว่าแอบไปกินยาอื่น ถ้าเกิดให้ยาเคมีบำบัดต่ออีก ผลเสียอาจจะใหญ่หลวงกว่านี้มาก (ตับวายได้เลย เสียชีวิตครับ) การเจาะเลือดไม่สามารถเจาะได้ทุกครั้งที่มาตรวจนะครับ มันมีค่าใช้จ่ายหลายพันบาท อยากถามว่าคนให้ยาพวกนี้เคยเจาะเลือดติดตามคนที่มารับยาบ้างมั้ย

หากยาสมุนไพรที่แอบอ้างสรรพคุณมันดีมากขนาดนั้น ใช้ได้กับทุกโรคขนาดนั้น ปานนี้คงเอาไปใช้ทั่วโลก โด่งดังไปทั่วโลกแล้วครับ ฝากกระจายความรู้ความเข้าใจให้กับคนที่คุณรักกันด้วยครับ

ผลคือค่าการทำงานของตับผิดปกติ สูงขึ้นไป 4 เท่า นี่ขนาดกินมาแค่ไม่ถึงอาทิตย์นะครับ ถ้าเกิดกินนานกว่านี้สงสัยตับคงพังแน่นอน หมดโอกาสรักษาต่อเนื่องให้โรคสงบ ขอฝากไว้เป็นอุทาหรณ์นะครับ ถ้าใครหวังจะรักษากับแพทย์แผนปัจจุบันที่มีการวิจัยรองรับผลการรักษาอย่างมีมาตรฐานมาทั่วโลก ก็อย่าริอาจไปกินยาอื่นซ้ำซ้อนให้เกิดผลเสียกับตัวเองเลย เสียโอกาสในการรักษา สุดท้ายทำให้รักษาไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะผลข้างเคียงหรือเพราะโรคมันเลยระยะที่จะให้การรักษาได้แล้ว

หากคนไข้ไปกินยาอื่นมาก็ให้รีบแจ้งหมอกันตรงๆครับ จะได้ติดตามผลเสียได้ทันท่วงที ลองคิดดูว่าถ้าเกิดรายนี้ไม่มีการเจาะเลือดดู ผมคงไม่มีทางรู้ว่าแอบไปกินยาอื่น ถ้าเกิดให้ยาเคมีบำบัดต่ออีก ผลเสียอาจจะใหญ่หลวงกว่านี้มาก (ตับวายได้เลย เสียชีวิตครับ) การเจาะเลือดไม่สามารถเจาะได้ทุกครั้งที่มาตรวจนะครับ มันมีค่าใช้จ่ายหลายพันบาท อยากถามว่าคนให้ยาพวกนี้เคยเจาะเลือดติดตามคนที่มารับยาบ้างมั้ย

หากยาสมุนไพรที่แอบอ้างสรรพคุณมันดีมากขนาดนั้น ใช้ได้กับทุกโรคขนาดนั้น ปานนี้คงเอาไปใช้ทั่วโลก โด่งดังไปทั่วโลกแล้วครับ ฝากกระจายความรู้ความเข้าใจให้กับคนที่คุณรักกันด้วยครับ”