“พล.ต.ต.สุรเชษฐ์” นำทีมตำรวจบุกจับแก๊งตุ๊กตุ๊ก-แท็กซี่ 140 คันหลอกลวงนักท่องเที่ยว อ้างพระบรมมหาราชวังปิด ก่อนเสนอข่ายโปรแกรมเที่ยวเกินราคา-ข่มขู่ขายสินค้า
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เทศกิจ ร่วมจัดระเบียบแหล่งท่องเที่ยวบริเวณสนามหลวง เพื่อป้องกันรถสามล้อตุ๊กตุ๊ก แท็กซี่ เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว โดยเชิญโชเฟอร์รถตุ๊กๆ และแท็กซี่กว่า 500 คน มาทำประวัติ พร้อมกำชับความเข้าใจในการให้บริการ และดูแลนักท่องเที่ยว ห้ามโก่งราคาค่าโดยสาร ,ไซด์แขก หรือการชักชวนไปตามร้านจิวเวอรี่ ร้านสูท แนะนำไปล่องเรือนำเที่ยว โดยอ้างว่า พระบรมมหาราชวังหรือวัดปิด แต่กลับพาไปซื้อขายสินค้าด้อยคุณภาพและบริการเกินจริง หรือข่มขู่นักท่องเที่ยวหากไม่ยอมซื้อสินค้า หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด ซึ่งที่ผ่านมาจับกุมไปแล้วรวมกว่า 140 คน
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีแก๊งตุ๊กตุ๊กหลอกลวงนักท่องเที่ยวที่เดินมาเยี่ยมชมพระบรมมหาราชวัง ว่าพระบรมมหาราชวังปิด เพื่อจะขายโปรแกรมนำเที่ยวและนำไปซื้อสินค้า อาทิ เครื่องประดับ ชุดสูท ล่องเรือนำเที่ยวแม่น้ำเจ้าพระยา หรือการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวของผู้ค้าโดยรอบบริเวณ ในการยัดเยียดขายสินค้า, ขายสินค้าราคาเกินจริง, ข่มขู่นักท่องเที่ยวที่ไม่ซื้อสินค้า, รวมถึงกลุ่มรถแท็กซี่และตุ๊กตุ๊กที่จอดกีดขวางการจราจรทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาพระบรมมหาราชวังได้ลำบาก จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อจัดระเบียบและจับกุมผู้กระทำความผิด
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการจับกุมในวันนี้ มีข้อหาตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 จำนวน 68 ราย, ก่อความเดือดร้อนรำคาญ จำนวน 19 ราย, และกลุ่มเสี่ยงกระทำความผิด 52 ราย ซึ่งจะทำการลงประวัติและดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งปีนี้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 32.5 ล้านคน โดยคาดว่าในสิ้นปีนี้ 33-34 ล้านคนอย่างแน่นอน จึงอยากให้ทุกคนช่วยให้การท่องเที่ยวของไทยดีขึ้น เพื่อเป็นภาพลักษณ์ให้ประเทศ โดยจากนี้ตำรวจจะกวดขันทุกวัน โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยว ทั้ง เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา เพื่อไม่ให้ภาพลักษณ์เสื่อมเสีย และหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่กระทำความผิดก็จะดำเนินการโดยไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน
