จากกรณีโค้ช และนักฟุตบอลทีมหมูป่า ทั้ง 13 คน ที่เดินทางไปเที่ยวภายในถ้าหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้หายตัวไปตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 23 มิ.ย. คาดว่าอาจจะติดอยู่ในถ้ำ เนื่องจากฝนตกจนน้ำใต้ดินดันขึ้นมาปิดทางเข้า-ออก และในถ้ำดังกล่าวมีลำธารไหลขนานไปตลอดความลึก ซึ่งคาดว่าจะลึกถึง 3 ก.ม. จนต้องระดมเจ้าหน้าที่และชุดนักประดาน้ำออกค้นหา ซึ่งพบเพียงรองเท้า และกระเป๋าอุปกรณ์กีฬา
ล่าสุด หน่วยซีล เปิดใจถึงความคืบหน้า หลังออกมาจากถ้ำหลวง กับปฏิบัติการค้นหาทั้ง 13 ชีวิตว่าได้เข้าไปในจุดที่คาดว่าจะมีกลุ่มเด็กๆ อยู่ แต่เมื่อไปถึงกลับพบอุปสรรค เนื่องจากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ทางที่ทำการค้นหาแคบมากทำให้ไม่สามารถไปต่อได้ เจอปัญหาน้ำขึ้น เสี่ยงมากที่จะไปต่อ เข้าไปลึกอีก ถอดขวดเข้าไป ลากเข้าไป พบรอยเท้า พบสายเปล ก่อนหนีน้ำขึ้นไป โดยที่โถงของถ้ำ ไม่เจอ 13 ชีวิต ขณะน้ำสูง แค่เอว แค่อก และสูงกว่านี้ น้ำเข้ามาเป็นน้ำธรรมชาติ จากปล่องบนภูเขา มีการกระจายตามจุด ดูน้ำมาจากตรงไหนบ้าง เครื่องมือที่มียังไม่สามารถรักษาระดับน้ำไว้ได้ หน่วยซีลต้องดำน้ำเข้าไป เนื่องจากมีความเสี่ยงมาก ขณะนี้ชุดค้นหาได้เข้าในพื้นที่เพิ่มเติมต่ออีกราว 2 กิโลเมตร โดยต้องถอดถังออกซิเจนที่สะพายไว้ และต่อสายเพื่อที่จะเดินเข้าไป ซึ่งได้พบร่องรอยเท้าและรอยมือเช่นเดิม แต่สิ่งที่เพิ่มเติมมากกว่าเดิมคือพบสายผูกเปล ซึ่งคาดว่าเป็นของกลุ่มเด็กๆ ที่เข้าไปด้านใน แต่อย่างไรก็ตามยังไม่พบหลักฐานอื่นๆ รวมทั้งขณะนี้ยังไม่พบตัวผู้สูญหายทั้งหมด