เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

กรณีศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นประหารชีวิต นายกฤติเดช ระเวงวรรณ อดีตผู้ใหญ่บ้านสีถาน ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมา หลังก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบแล้วถีบรถจักรยานยนต์ของ น.ส.ฤดีวัลย์ พลประสิทธิ์ อายุ 18 ปี หรือน้องสโนว์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนประจำ อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ ขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับจากโรงเรียนแล้วพยายามข่มขืน บริเวณทางเข้าบ้านโนนเมือง ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ แต่เหยื่อต่อสู้ขัดขืนจนถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.58 นั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่บ้านเลขที่ 94 บ้านโนนเมือง ม.12 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านของน.ส.ฤดีวัลย์ พลประสิทธิ์ อายุ 18 ปี หรือน้องสโนว์ มีญาติและเพื่อนบ้านต่างๆเดินทางมาให้กำลังใจกับนายกฤษณ์ นางลำใย พลประสิทธิ์ พ่อและแม่ น้องสโนว์ หลังทราบข่าวที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นประหารชีวิตนายกฤติเดช ระเวงวรรณ อดีตผู้ใหญ่บ้านสีถาน ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการที่ผู้ต้องหารับโทษสูงสุดคือการประหารชีวิต เพราะเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจและสะเทือนขวัญ อีกทั้งไม่อยากให้เหตุการณ์ลักษณ์นี้เกิดขึ้นกับครอบครัวใครอีก

โดยหลังจากเข้ารับไปรับฟังการอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 ก.ค. นางลำใย พลประสิทธิ์ แม่น้องสโนว์จุดธูปบอกข่าวกับดวงวิญญาณของลูกสาวต่อหน้าภาพถ่าย ที่ยังคงติดอยู่ตามฝาผนังบ้านและตู้เสื้อผ้า เพื่อบอกความคืบหน้าในการสู้คดีของครอบครัวมายาวนานกว่า 2 ปี 7 เดือน หรือกว่า 935 วันหลังเกิดเหตุมาตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2558 อีกทั้งยังเข้าไปในเฟชบุ๊กของลูกสาว เพื่อขอบคุณทุกๆคนที่มาให้กำลังใจ

นางลำใย กล่าวว่า ตั้งแต่ลูกสาวจากไปครอบครัวยืนยันที่จะสู้ เพื่อน้องสโนว์อย่างถึงที่สุด เพราะเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม อีกทั้งน้องสโนว์เองก่อนเสียชีวิตก็ยังสู้เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีตัวเอง กระทั่งวันนี้มีความคืบหน้าของคดีถึงขั้นตอนของศาลอุทธรณ์แล้ว ทำให้ครอบครัวพลประสิทธิ์มีกำลังใจและเข้มแข็งยิ่งขึ้น

“แต่ในฐานะผู้เป็นแม่ ขอให้ลูกสาวไปสู่สุคติสรวงสวรรค์ ไม่ต้องห่วงทางนี้ ขอจงไปสู่สรวงสรรค์ เพราะถึงอย่างไรครอบครัวก็จะสู้เพื่อน้องอยู่แล้ว ซึ่งหากบุพเพวาสนามีจริง ชาติหน้าก็ขอให้น้องสโนว์กลับมาเกิดเป็นลูกแม่อีก ในส่วนของคดี กรรมใดที่ใครก่อ คงจะต้องได้รับผลกรรมนั้น ไม่ต้องถึงชาติหน้า ซึ่งเป็นบทลงโทษของกฎหมายก็ว่ากันไปตามกระบวนการ แต่ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก อยากให้เกิดขึ้นกับครอบครัวดิฉันเป็นครั้งสุดท้าย” นางลำใย กล่าว