เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

โลกโซเชียลพากันวิเคราะห์วิจารณ์ หญิงสาวบุกขึ้นกุฏิวัดดังยามวิกาล อ้างญาติเสียชีวิต ต้องการหาเงินกลับบ้านจากพระสงฆ์ เคราะห์ดีพระติดกิจนิมนต์ยังเดินทางกลับมาไม่ถึง หวั่นเป็นมิจฉาชีพแฝงมาก่อเหตุและทำให้สังคมเข้าใจผิดเป็นอาบัติ

ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Teerawit Sukontavaranon ได้แชร์คลิปและภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในกุฏิวัดราชาธิวาสวิหาร(คณะใต้) เมื่อคืนวานนี้ (7 ส.ค.) พบเห็นภาพผู้หญิงขึ้นมาที่กุฏิ คล้ายกับจะขอความช่วยเหลือ แต่ช่วงเวลานั้นพระสงฆ์ติดกิจนิมนต์ยังไม่กลับมา ศิษย์วัดที่ดูแลก็ไม่ยอมเปิดให้เข้า เนื่องจากมีพฤติกรรมที่ค่อยน่าไว้วางใจ

ตามรายงานระบุว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่กุฏินกพิราบ ภายในวัดราชาธิวาสวิหาร(คณะใต้) ย่านดุสิต พบเห็นผู้หญิงไม่ทราบชื่อตระเวนเดินเข้าออกกุฏิวัด เพื่อตามหาพระสงฆ์ พร้อมกับบุกขึ้นไปโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยสังเกตดูว่าห้องไหนเปิดไฟ

กล้องวงจรปิดภายในกุฏิจับภาพเอาไว้ได้ ช่วงที่ผู้หญิงคนดังกล่าวบุกขึ้นกุฏิวัดและไปยังชั้น 2 แต่ช่วงเวลาดังกล่าวมีเพียงศิษย์วัดดูแลอยู่ เนื่องจากพระสงฆ์ติดกิจนิมนต์และยังเดินทางกลับมาไม่ถึงวัด แต่ทางศิษย์วัดไม่ได้เปิดประตูให้เข้าไปแต่อย่างใด

ทั้งนี้ พระสงฆ์รูปอื่นๆ ยังบอกว่า ผู้หญิงคนนี้จะพยายามเข้ามาในกุฏิ เมื่อเข้ามาได้แล้วก็จะแจ้งว่าญาติเสียชีวิต ต้องการเงินเดินทางกลับบ้าน พยายามขอเงินจากพระสงฆ์ที่สนทนาด้วย แต่จากพฤติกรรมดังกล่าวไม่สิ่งที่เหมาะสมและไม่ควรปฏิบัติ เกรงว่าพฤติกรรมเช่นนี้อาจทำให้เสื่อมเสียถึงวงการศาสนา และทำให้สังคมเข้าใจผิดได้

อย่างไรก็ตาม หลังจากคลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา บางคนมองว่าผู้หญิงคนดังกล่าวมีพฤติการณ์ที่แปลกจริง ควรรู้โดยจิตใต้สำนึกว่าไม่ควรบุกเข้าไปในกุฏิพระ ยิ่งเฉพาะในยามวิกาลเช่นนี้

นอกจากนี้ยังมีคนตั้งข้อสังเกตว่า ผู้หญิงคนดังกล่าวอาจจะสาวประเภทสองมากกว่าผู้หญิงแท้ แต่ยังไม่มีการชี้ชัดว่าเธอผู้นี้จะเป็นมิจฉาชีพแอบแฝงที่มุ่งเป้าหมายไปยังพระสงฆ์หรือไม่

เมื่อสีกาบุกกุฏิพระกลางดึก… ทำยังไงละโยม ???เมื่อเวลาประมาณ ๓ ทุ่ม ที่ผ่านมา (๗ ส.ค.) มีผู้หญิงไม่ทราบชื่อได้เข้ามาในวัด และตระเวนไปตามกุฏิพระภิกษุ โดยมีการบุกขึ้นไปที่กุฏิที่มีพระภิกษุพักอาศัยอยู่ โดยเขาสังเกตจากที่มีการเปิดไฟ ในคลิปเป็นการบุกขึ้นมาบนกุฏินกพิราบ วัดราชาธิวาสวิหาร(คณะใต้) แต่ไม่พบพระภิกษุพบแต่ศิษย์วัดที่พักอยู่ชั้น ๒ และศิษย์วัดไม่ยอมเปิดประตูให้เข้าไปพฤติกรรมจากที่สอบถามพระรูปอื่นๆ ทราบว่าเมื่อเจอพระจะรีบพาตัวเองให้เข้าไปในกุฏิให้ได้ แล้วแจ้งว่ามีญาติเสียชีวิต ต้องการเงินเดินทางกลับบ้าน ขอเงินจากพระที่สนทนาด้วย ดังนั้นขอให้แต่ละวัดลองหาวิธีป้องกันตัวจากพฤติกรรมเช่นนี้ เพราะถ้ามีภาพถ่ายหรือคลิปอะไรหลุดไป พระภิกษุจะตกเป็นจำเลยของสังคมอย่างง่ายดายป.ล. โชคดีที่คืนนี้กลับมาถึงกุฏิดึกมากเพราะการจราจรเมืองหลวงติดขัด มาพบเพียงหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และคำบอกเล่าจากศิษย์วัด

โพสต์โดย Teerawit Sukontavaranon เมื่อ วันอังคารที่ 7 สิงหาคม 2018