เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 14 ส.ค.61 ใกล้เข้าไปทุกทีแล้วกับการเลือกตั้งครั้งใหม่ ทำให้วงการเมืองเริ่มจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอดีตผู้นำ สแกนคำพูด “นายใหญ่” แห่งเพื่อไทย นายทักษิณ ชินวัตร ประกาศผ่านสาธารณะ แสดงความมั่นอกมั่นใจทุกครั้งที่โชว์สื่อ

ว่าจะชนะเลือกตั้ง ได้ ส.ส.เป็นอันดับ 1 ไม่ใช่แค่ “แลนด์สไลด์” แต่จะถึงขั้น “หิมะถล่ม”

ความมั่นอกมั่นใจมากจากไหน

“เสี่ยแม้ว” เฉลยให้อดีต ส.ส.ฟังว่า มาจากที่ทำโพลตลอด ทำให้สามารถประเมินได้ เพื่อไทยชนะที่ 1 แน่

พร้อมส่งสัญญาณ นายใหญ่สั่งลุย!!!

“ถ้าเรายังสู้อยู่เราก็จะไม่แพ้ นั่นก็คือมีแต่แบทเทิล… วอร์ (สงคราม) ยังไม่จบ”

ยิ่งก่อนหน้านี้ฮึกเหิมยิ่งนัก ประกาศตามหลัง “นายมหาธีร์ โมฮัมหมัด” วัย 92 คว้าชัยชนะนั่งตำแหน่งผู้นำอีกครั้ง

ว่าตัวเองอาจคัมแบ็คนั่งนายกฯ ตามรอยนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้เช่นกันในวันข้างหน้า

ถึงขนาดตั้งเป้าว่า จะพยายามให้แข็งแรงเหมือน นายมหาธีร์ ตอน 92 ปี ให้ได้

เมื่อนายทักษิณหงายไพ่สู้หมดหน้าตักอย่างนี้

แน่นอนว่า “นอมินี” ที่จะมาเอามาไม้หัวหน้าเพื่อไทย ย่อมเป็นสายตรง “ชินวัตร”

ถึงอย่างไรเลือดต้องข้มกว่าน้ำ ไว้ใจได้เต็มที่ ในการคุมทัพ

ชื่อที่ได้รับการคาดหมายเวลานี้ คือหลานชาย “นายใหญ่”

นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ บุตรชายของ นางเยาวภา-นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นั่นเอง

แม้คนข้างๆ “เจ๊แดง” ปฏิเสธว่างานนี้เจ๊ไม่ยุ่งการเมืองแล้ว เพราะครอบครัวโดนมาเยอะแล้ว

แต่ใครๆ ก็มองว่า มีแนวโน้มที่จะเป็นไปได้สูง ว่า นายยศชนัน น่าจะเป็น “นอมินี รุ่น 3” ชินวัตร

ที่ผ่านมาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเจ๊แดงคนนี้ เคยชิมลางลง ส.ส.เชียงใหม่มาแล้ว

แต่ที่ยังไม่ออกหน้าเต็มที่ เพราะอยากให้ “ลับ ลวง พราง” ไว้ก่อน ถ้าเปิดตัวไว ก็ช้ำเร็ว

เห็นได้ชัดคำพูด “นายใหญ่” ที่บอกว่าเรื่องการวางตัวผู้นำพรรคนั้นไม่รีบร้อน

ดูอย่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก่อนหน้านี้เป็นนักธุรกิจไฮโซสาว

นั่งซีอีโอ “เอสซี แอสเสท” และ “แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส”

พี่ชายใช้เวลาเพียง 49 วัน ยังผลักดันขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 ของประเทศไทยสำเร็จ

เมื่อความมั่นใจของคู่ต่อสู้เกมการเมือง พร้อมขับเคี่ยวเต็มที่นั้น ไม่แน่ใจว่า “ของจริง” หรือแค่ “ดราม่า” หวังสกัดเลือดไหลออก

ฟากกุมอำนาจรัฐอยู่เชื่อได้เลยว่า ถ้าไม่มั่นใจสถานการณ์ว่าได ้”รีเทิร์น” ยังไม่ปล่อยให้ลูกไปเข้าเท้าคู่ต่อสู้แน่

จนมีการจับตากันว่าการเสนอแก้ไข พ.ร.ป.กกต. เป็น “เกมยื้อการเลือกตั้ง” หรือไม่

แถมยัง “กติกา” ที่สร้างขึ้นมาแตะตัดขาพรรคนายใหญ่ได้อีก

ถึงจะมั่นใจว่าจะยังชนะที่ 1 อยู่ แต่คงไม่ขาดลอยเหมือนเช่นในอดีต

ยิ่งไปกว่านั้นมีพรรคการเมืองในร่มเงา “สีเขียว” ค่อยแซะ ดึง ดูด นักการเมืองใน “ค่ายทักษิณ” ให้แยกออกมา

เพื่อจะได้ร่วมกับพรรคพันธมิตรชายคา คสช.จัดตั้งรัฐบาลแข่งกันได้

ท้ายที่สุด แม้นพื่อไทยหลุดได้จัดตั้งรัฐบาล ก็อยู่ยากเต็มที เพราะ “กติกา” ที่มีอยู่ ไม่เอื้อ

โดยเฉพาะ ส.ว. 250 คน ที่เสมือนเป็นกองหนุน คสช. วางสนุ้ไว้ ยากที่จะรอดได้**