ระทึก…!! ไฟไหม้”ตึกโบ๊เบ๊ทาวเวอร์” แม่ค้า วิ่งวุ่นหอบของ”หนีตาย”กลางดึก
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 12 ก.ย. ร.ต.ท.โกเมน วรรณบวร รอง สว.(สอบสวน) สน.นางเลิ้ง รับแจ้งเหตุเพลิง
ไหม้อาคารพาณิชย์สูง 7 ชั้น ปลูกติดกันหลายคูหา (โบ๊เบ๊ทาวเวอร์)ซอยดำรงรักษ์ แขวงคลองมหานาค เขต
ป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผกก.สน.นางเลิ้ง
พร้อมประสานรถป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร รถกระเช้าจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณ
ภัยกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุคืออาคารเลขที่ 1082/10 ชื่อร้านเจียงบูติค เป็นร้านขายเสื้อผ้าและเป็นที่เก็บเสื้อผ้าโหล ประตูเหล็ก
ด้านล่างถูกล็อคไว้ และเกิดแสงเพลิงขึ้นที่บริเวณชั้นที่ 2 ก่อนจะลุกลามขึ้นไปชั้นบนอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ต้อง
พังประตูเหล็ก และระดมฉีดน้ำจำนวนหลายหัวฉีดเพื่อสะกัดกั้นเพลิงไม่ให้ลุกลาม โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมงเพลิง
จึงสงบ
ที่เกิดเหตุคืออาคารเลขที่ 1082/10 ชื่อร้านเจียงบูติค เป็นร้านขายเสื้อผ้าและเป็นที่เก็บเสื้อผ้าโหล ประตู
เหล็กด้านล่างถูกล็อคไว้ และเกิดแสงเพลิงขึ้นที่บริเวณชั้นที่ 2 ก่อนจะลุกลามขึ้นไปชั้นบนอย่างรวดเร็ว เจ้า
หน้าที่ต้องพังประตูเหล็ก และระดมฉีดน้ำจำนวนหลายหัวฉีดเพื่อสะกัดกั้นเพลิงไม่ให้ลุกลาม โดยใช้เวลา 1
ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ
ด้าน น.ส.ปริญดา ไพศาลเจริญวงศ์ อายุ 28 ปี ลูกสาวเจ้าของร้าน เปิดเผยว่า เปิดร้านขายเสื้อผ้ามานาน
กว่า 20 ปี ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน โดยชั้นที่ 1 เป็นหน้าร้านสำหรับขายเสื้อผ้า ส่วน ชั้นที่ 2-6 เป็น
โกดังสำหรับเก็บเสื้อผ้าเพื่อเตรียมขาย ก่อนเกิดเหตุเวลา 22.00 น.ได้ปิดร้านและเดินทางกลับบ้านตามปกติ
ขณะนั้นไม่มีสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด กระทั่งในเวลาต่อมา เพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามได้โทรศัพท์มาแจ้งว่าร้านเกิด
เพลิงไหม้จึงรีบเดินทางมาตรวจสอบ เบื้องต้นไม่มีลูกจ้างของร้านพักอาศัยอยู่ภายใน ส่วนมูลค่าความเสียหาย
ยังไม่สามารถระบุได้
เบื้องต้นมีรายงานว่า ที่ชั้น 7 ซึ่งเป็นชั้นดาดฟ้าและเป็นห้องพัก มีคนติดค้างอยู่ภายใน ทราบชื่อต่อมาคือ
นางระพีพร หลิว อายุ 33 ปี พร้อมสามี, พี่ชายสามี ซึ่งเป็นชาวจีนทั้งคู่ และลูกชาย อายุ 1 ปี 3 เดือน โดย
นางระพีพร เปิดเผยว่า มีอาชีพขายเสื้อผ้าที่ตลาดโบ๊เบ๊ กับสามี และเช่าห้องพักที่ชั้น 7 ตึกดังกล่าว อาศัย
มากว่า 4 ปี ก่อนเกิดเหตุขณะกำลังนอนหลับพักผ่อนกับครอบครัวและลูกชาย สามีได้กลิ่นเหม็นควันไฟ จึง
ออกมาดูพบแสงเพลิงกำลังลุกลาม และได้รีบบอกให้ทุกคนรีบหนีลงบันได้หนีไฟ ซึ่งตนได้ให้สามีพาลูกชาย
หนีไปก่อน ส่วนตนก็หนีลงบันไดหนีไฟตามมาที่หลัง
ด้าน พ.ต.อ.สมยศ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีแสงเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นที่ 2 ก่อนจะลุกลามอย่าง
รวดเร็วจนถึงชั้นที่ 6 เนื่องจากตึกดังกล่าวเป็นที่เก็บเสื้อผ้าเพื่อส่งให้ลูกค้า และเป็นเชื้อไฟอย่างดี จึงทำให้
ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ส่วนชั้นที่ 7 ซึ่งเป็นชั้นดาดฟ้า จะเป็นที่พักของคนงานและสามารถทะลุเชื่อมถึงกัน
ได้ทั้งอาคาร โดยเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีผู้ติดค้างด้านบนตึก ประมาณ 10 คน แต่เมื่อตรวจสอบพบว่าทุกคน
ได้วิ่งลงมาทางบันไดหนีไฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเบื้องต้นไม่พบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
พ.ต.อ.สมยศ เผยอีกว่า อย่างไรก็ตาม จะสอบปากคำเจ้าของร้านต้นเพลิงอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะ
ประสานให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบพื้นที่ที่เกิดเหตุ เพื่อสรุปสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ต่อไป.