เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. เดลี่เมล์รายงานความคืบหน้าคดีน.ส.เบธานี ลินน์ สตีเฟนส์ วัย 22 ปี ถูกสุนัขพิตบูลสองตัวของตนเองขย้ำจนเสียชีวิต ระหว่างหญิงสาวพาสุนัขทั้งสองไปเดินเล่นตามลำพัง ในเมืองกูชแลนด์ รัฐเวอร์จิเนีย อีกทั้งสุนัขยังกัดแทะศพ ว่าอาจมาจากการเลี้ยงที่ถูกปล่อยปละละเลยและหิวโหย ไมก์ แบล็กวูด นายอำเภอเมืองกู๊ชแลนด์ระบุว่า เจ้าตองก้าและแพคแมน สองสุนัขสายพันธุ์พิตบูลที่ขย้ำเจ้าของเสียชีวิตอาจมีสาเหตุมาจากการเลี้ยงดูที่ปล่อยปละละเลยและไม่ได้กินอาหารสม่ำเสมอ
ก่อนหน้านี้สุนัขสองตัวอาศัยอยู่กับนางเบธานี ในลักษณะสนิทสนม และเลี้ยงในบ้าน นอนร่วมกับเจ้าของจนกระทั่ง นางเบธานีหย่ากับสามีจึงพาสุนัขสองตัวมาอยู่กับพ่อ ชื่อ จอห์น สตีเฟนส์ แต่การเลี้ยงดูกลับไม่เป็นเหมือนแต่ก่อน นายจอห์นเลี้ยงแบบตามมีตามเกิดและทิ้งไว้ในกรงนอกบ้านและไม่ค่อยได้ให้อาหารแต่อย่างใด สุนัขสองตัวนี้มีโอกาสได้เจอนางเบธานีเพียงเฉลี่ย 5 วันต่อสัปดาห์เท่านั้น
ด้านนางเวลารี่ พอล ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการฝึกฝนสุนัขระบุว่าการเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ที่เกิดขึ้นกับสุนัขทั้งสองตัวเป็นผลให้เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้น พร้อมกับชี้ว่าสุนัขพันธุ์พิตบูลเป็นพันธุ์ใหญ่ต้องออกกำลังกายอยู่ตลอดเวลา การขังมันไว้ในกรง ปล่อยให้มันอยู่โดดเดี่ยว ห่างไกลจากผู้คนทำให้มันเครียด ประกอบกับสะสมแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากพฤติกรรมของสุนัขที่ก้าวร้าวอยู่เป็นประจำ เมื่อมันเห็นสิ่งที่ไม่ถูกใจ
เหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นวันพฤหัสบดีที่ 14 ธ.ค. หลังนายจอห์น พ่อของผู้ตาย ผิดสังเกตว่าลูกสาวยังไม่กลับบ้าน หลังจากพาสุนัขพิตบูลสองตัวออกไปเดินเล่นนานแล้ว จึงได้ออกตามหาและพบศพลูกสาวอยู่กับสุนัขสองตัว เพื่อนของนางเบธานี น.ส.บาร์บาร่า นอร์ริส เปิดใจว่าตนไม่เชื่อว่าสุนัขสองตัวจะลงมือสังหารเพื่อนสาว และคิดว่าเพื่อนถูกฆาตกรรม ทั้งยังยืนยันว่าสุนัขสองตัวนั้นไม่มีทางโจมตีเพื่อนของตนแน่นอน ทั้งนี้ตำรวจทำการุณยฆาตสุนัขทั้งสองตัวแล้ว เพื่อความปลอดภัยของชุมชน สุนัขที่เคยลิ้มลองเนื้อมนุษย์แล้วก็ไม่ปลอดภัยอีก
Cr. ข่าวสด