จากคดีโจ๋กร่างโมโหแทนเพื่อน แล้วไปชกหน้าเด็กผู้หญิงจนบาดเจ็บ ล่าสุดที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ถนนสวนผัก ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย คดีที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายธนากร ภิรมย์ อายุ 23 ปี และนายณัฐวุฒิ รำพึงกิจ อายุ 20 ปี เป็นจำเลย 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 และทำให้เสียทรัพย์ ตามมาตรา 358 กรณีเมื่อช่วงปลายปี 60 มีการเผยแพร่คลิปเหตุต่อยทำร้ายเด็กสาวบนรถแท็กซี่ ซึ่งนายกฤตภาส รอดหลัก คนขับแท็กซี่ บิดาได้ขับรถมารับ น.ส.พานทอง และ น.ส.กชกร ลูกสาว หลังจบจากการดูคอนเสิร์ตวงค็อกเทล วงดนตรีขวัญใจวัยรุ่น ระหว่างนั้นได้มีกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจยย. มาชนท้ายรถแท็กซี่ ทำให้คนขี่จยย. ซึ่งเป็นเพื่อนของจำเลยทั้งสองได้รับบาดเจ็บ จำเลยจึงโกรธแค้น เข้ารุมทำร้ายชกต่อย นายกฤตภาส คนขับแท็กซี่ และลูกสาวทั้งสองที่อยู่ในอาการร้องไห้หวาดกลัว จนได้รับบาดเจ็บ และยังทุบรถแท็กซี่ได้รับความเสียหายด้วยประมาณ 30,000 บาท ก่อนหลบหนีไป ซึ่งผู้เสียหายได้แจ้งความไว้ กระทั่งสังคมมีกระแสกดดันให้ตามจับกุมผู้ก่อเหตุมารับโทษ ทั้งสองจึงได้เข้ามอบตัว
โดยคดีนี้ พนักงานสอบสวน สน.บางเสาธง ได้แจ้งข้อกล่าวหากับทั้ง 2 คนร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ซึ่งระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และแจ้งข้อหานายธนากร ทำให้เสียทรัพย์ ตามมาตรา 358 ด้วย ซึ่งระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ โดยนำตัวทั้งสองผัดฟ้องฝากขังครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 60 โดยระหว่างนี้จำเลยทั้งสองไม่ได้รับการปล่อยชั่วคราวเพราะศาลเห็นว่า เป็นการทำร้ายผู้อื่นในที่สาธารณะ แม้ขณะเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ด้วยแต่ก็ไม่เกรงกลัว จึงเป็นพฤติกรรมอุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย กระทั่งครบระยะเวลา 30 วันในการผัดฟ้องฝากขัง เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 61 ที่ผ่านมา พนักงานอัยการ ก็ได้ยื่นฟ้องนายธนากร และนายณัฐวุฒิ เป็นจำเลยต่อศาล
โดยวันนี้ ศาลได้เบิกตัวทั้งสองจากเรือนจำพิเศษธนบุรีมาสอบคำให้การ โดยนายธนากร และนายณัฐวุฒิ ให้การปฏิเสธต่อสู้คดี ศาลจึงนัดพร้อมเพื่อตรวจหลักฐานในวันที่ 26 ก.พ.นี้ เวลา 09.00 น. ทั้งนี้ จำเลย ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 35,000 และ 28,000 บาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราว ซึ่งศาลพิจารณาแล้ว เห็นว่า ก่อนหน้านี้ศาลอุทธรณ์ก็ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ดังนั้นจึงยังไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ให้ยกคำร้อง ดังนั้น ทั้งสองจึงต้องถูกควบคุมตัวในเรือนจำพิเศษธนบุรีต่อไป
ที่มา – เดลินิวส์