สาวร้องขอความเป็นธรรม ย้ายจากบ้านเก่ามา 17 ปี เจอค่าไฟย้อนหลัง 56000 บาท

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความลงในกลุ่ม “พวกเราคือผู้บริโภค” หลังถูกเรียกเก็บค่าไฟย้อนหลัง เป็นยอดสูงถึง 56,000 บาท โดยข้อความระบุว่า “สวัสดีค่ะเราอยากมีเรื่องขอความคิดเห็นของทุกคนค่ะ เรื่องมีอยู่ว่าการไฟฟ้าเรียกเก็บค่าไฟย้อนหลังค่ะ เป็นจำนวนเงินประมาณ 56,000 บาท

ขออนุญาตเท้าความก่อนนะคะ หม้อแปลงลูกนี้เป็นของบ้านเก่า ที่เราย้ายออกมาเป็นเวลา 16-17 ปีแล้วค่ะ ตอนนั้นเรายังเด็กอยู่ ไม่ได้รู้เรื่องอะไรมาก ญาติผู้ใหญ่ก็ตาสีตาสาไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ไปแจ้งเอาหม้อออกค่ะ คิดว่าเดี๋ยวก็มายกหม้อออก

การไฟฟ้าแจ้งมาว่าค่าไฟฟ้าเพิ่งจะมาขึ้นเมื่อประมาณปี 61 เราเลยสงสัยว่าทำไมเขาถึงไม่มายกหม้อออกคะ ถ้าค่าไฟขึ้นขนาดนั้นทำไมถึงรอให้เงินมันเยอะมากขนาดนี้ค่ะ ได้มีการพูดคุยกันเบื้องต้นเพื่อให้ผ่อนชำระค่ะ แต่ในความคิดเห็นเรา คือเราไม่ได้ใช้ไฟแล้ว ที่ตรงนั้นย้ายออกมาหมดบ้านก็รื้อออกมาแล้ว เหลือแค่หม้อแปลงกับเสาแค่นั้นค่ะ ควรทำอย่างไรดีคะ เป็นชื่อของยายค่ะ ตอนนี้ยายก็นอนติดเตียงค่ะ แบบนี้ร้องเรียนหน่วยงานไหนได้บ้างคะ ภายหลังมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก นั้น

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหนองกุ้ง หมู่ 13 ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อพบกับ น.ส.สุรีภรณ์ ย่อมกระโทก อายุ 26 ปี ผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว โดยเปิดเผยว่า ตนเป็นหลานเจ้าของบ้าน คือ นางบุญเกิด เชียรโคกกรวด อายุ 88 ปี ซึ่งป่วยติดเตียงด้วยโรคชรา และเคยอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 13 ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา ที่ถูกการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนครราชสีมา เรียกเก็บค่าไฟ 56,428.03 บาท เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 66 ที่ผ่านมา ตนรู้สึกตกใจมาก เนื่องจากบ้านหลังดังกล่าวถูกรื้อไปเมื่อ 16 ปีก่อน และได้ขายที่ดินไปให้ญาติแล้ว ซึ่งตนไม่เคยรู้มาก่อนตลอดเวลา 16 ปีว่ามีมิเตอร์ไฟ เนื่องจากคุณยายของตนก็ป่วยติดเตียงและแม่ของตนก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว มีเพียงป้าและญาติๆ ได้เข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่การเงินผู้หญิงคนหนึ่งของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งยอดมาและก็ให้ทางครอบครัวของตนชำระจ่ายให้คุณยาย โดยระบุให้จ่ายเดือนละ 1,000 บาท ซึ่งครอบครัวของตนยากจน จึงต่อรองจ่ายเดือนละ 500 บาท แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอม และใช้คำพูดที่ไม่สุภาพกับครอบครัวของตน ก่อนที่ตนจะนำเรื่องดังกล่าวมาโพสต์เพื่อขอความคิดเห็น ไม่ได้ต้องการจะสร้างความเสียหายให้กับการไฟฟ้าแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการให้มีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบถึงสาเหตุที่แท้จริง และช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวของตน เนื่องจากครอบครัวของตนมีฐานะยากจน และต้องดูแลยายที่ป่วยติดเตียงอีกด้วย

ด้าน นางบุญกี้ บัวทิพย์ อายุ 60 ปี ลูกสาวของเจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า ในวันที่เจ้าหน้าที่เรียกเข้าไปคุย ตนเดินทางไปกับญาติรวม 3 คน เพื่อไกล่เกลี่ยเกี่ยวกับการชำระหนี้แทนแม่ โดยได้นัดคุยเป็นจำนวน 3 ครั้งแต่ยังหาข้อสรุปไม่ได้

ขณะเดียวกันขณะที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นพื้นที่รกร้าง ได้พบกับเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าในส่วนของแผนกปฏิบัติการระบบไฟฟ้ากำลังเข้าตรวจพื้นที่ อ้างว่าพบสายไฟฟ้ารั่วลงดินอาจทำให้หม้อมิเตอร์คลาดเคลื่อน เบื้องต้นได้แจ้งเกี่ยวกับระเบียบการยกเลิกหม้อไฟฟ้าให้ครอบครัวตนได้ทราบ และรายงานไปให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนครราชสีมาได้รับทราบและหาทางแก้ไขต่อไป

ด้าน นายอำนวย ลักษณะ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาเมืองนครราชสีมา (สุรนารี) เปิดเผยว่า ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนครราชสีมาไม่ได้นิ่งนอนใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้เร่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะทราบผลภายใน 15 วัน เบื้องต้นคาดว่าจะเกิดจาก 2 สาเหตุ คือ มิเตอร์ไฟฟ้าได้รับความเสียหายชำรุด และเกิดจากกระแสไฟฟ้ารั่วลงดิน ตนยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับผู้ใช้ไฟฟ้าและหาทางช่วยเหลือเยียวยาให้เร็วที่สุด