เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เพจลุยจีน เปิด 10 ธุรกิจทุนจีนสีเทาในประเทศไทย ที่โกยรายได้ไปเป็นกอบเป็นกำ ได้แก่ ทัวร์ศูนย์เหรียญ สถานบันเทิง พนันออนไลน์ อสังหาริมทรัพย์

นายชนินทร์ อุดมศรีรัตน์ แอดมินเพจลุยจีน ระบุว่า ธุรกิจจีนเทาเข้ามาในประเทศไทยมานานแล้ว โดยธุรกิจแรกแรกที่ถูกพูดถึงคือทัวร์ศูนย์เหรียญ เริ่มได้รับการพูดถึงตั้งแต่ประมาณช่วงปี 2553 ช่วงที่การท่องเที่ยวไทยบูมมากในประเทศจีน จากนั้นก็เริ่มพบเห็นธุรกิจจีนเทาหลายตัวเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ

โดยตั้งแต่หลังโควิด มีการเข้ามาของทุนจีนเป็นองคาพยพใหญ่ ที่เข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมายก็มีเยอะ

แต่ก็มีอีกส่วนหนึ่งที่อาศัยช่องว่างทางกฎหมายเข้ามาตั้งถิ่นฐานในไทย บางรายก็เป็นผู้ร้ายอาชญากรที่อยู่ในจีนต่อไม่ได้แล้วอาศัยไทยเป็นแหล่งอพยพหรือตั้งถิ่นฐานใหม่

ซึ่งการเข้ามาส่งผลแน่นอนกับธุรกิจขนาดกลางขนาดเล็กหลายเจ้าที่ไม่สามารถแข่งขันได้ เพราะเป็นการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม ธุรกิจไทยหลายเจ้าเสียภาษีถูกต้องตามกฎหมาย ในขณะที่กลุ่มนี้บางเจ้าไม่ต้องเสียอะไรเลย ทรัพยากรที่ใช้ก็มาจากประเทศเขาหมด ทำให้ธุรกิจรายเล็กที่แข่งไม่ไหว ล้มหายตายจากเป็นจำนวนมาก

ส่วนตัวมองว่าธุรกิจที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือ ผลิตสินค้าปลอม และขนส่งศูนย์เหรียญที่เป็นเครือข่ายใหญ่มาก

โดยทุนจีนสีเทา เข้ามาตั้งโรงงานผลิตสินค้าปลอม เลือกทำเลเป็นพื้นที่ชนบทหรือพื้นที่ที่มีคนอาศัยอยู่น้อย นำเอาเครื่องจักร เครื่องมือ วัตถุดิบและแรงงานมาจากประเทศจีน เพื่อผลิตสินค้าปลอมทั้งของใช้ทั่วไปและสินค้าแบรนด์เนม แล้วนำมาขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ กระบวนการผลิตและการขายทั้งหมดเกิดขึ้นในประเทศไทย แต่เม็ดเงินถูกส่งกลับไปที่ประเทศจีน

จะเห็นได้ว่าสินค้าจีนทะลักเข้าไทยจำนวนมาก และมีราคาถูกกว่าสินค้าไทยอย่างเห็นได้ชัด หนึ่งในวิธีที่ทำให้มีราคาถูกคือลดต้นทุนการขนส่ง เป็นที่มาของขนส่งศูนย์เหรียญ ใช้รถบรรทุกของตัวเองขนส่งสินค้าจากจีนเข้ามาในประเทศไทย สินค้าบางจ่ายภาษีอย่างถูกต้อง แต่อีกหลายล็อตลักลอบนำเข้าโดยหลบเลี่ยงภาษี ส่งไปที่คลังสินค้าตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วไทย กำไรต่อชิ้นไม่มากแต่เน้นขายเอาปริมาณ สร้างผลกำไรมหาศาล และแน่นอนว่าเม็ดเงินไหลเข้าสู่ประเทศจีน

นายชนินทร์ ยังบอกว่า รถบรรทุกเหล่านี้ยังรับจ้างขนส่งสินค้าภายในประเทศให้คนไทยด้วย โดยมีการตัดราคาเพื่อแย่งลูกค้าจากผู้ประกอบการรถบรรทุกชาวไทย โดยในเดือนสิงหาคม 2567 ประเมินว่าน่าจะมีรถบรรทุกจากจีนวิ่งอยู่ในไทยประมาณ 10,000 คัน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 คันในปีหน้า

และจริงๆ ธุรกิจจีนเทาไปตั้งถิ่นฐานอยู่ทั่วโลก แต่ถ้ามาดูในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไทยถือเป็นจุดหมายต้นๆ ส่วนหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นเพราะความเข้มงวดในการใช้กฎหมาย รวมถึงอาจมีเครือข่ายจีนเทาที่เข้ามาก่อนหรือแม้แต่เจ้าหน้าที่ที่ให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก

ทำให้ธุรกิจจีนเทาไม่หมดไปและยิ่งมีแนวโน้มใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ต้องไปไล่ดูว่ามีรอยรั่วตรงไหน มีการใช้เส้นสาย หรือมีใครที่ให้การสนับสนุนอยู่หรือไม่

นายชนินทร์ ยังกล่าวถึง กรณีแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์อย่างแอปเทมู ที่แม้จะไม่ใช่ธุรกิจสีเทา เป็นธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ก็ชี้ให้เห็นว่า กฎระเบียบของเราอาจมีช่องโหว่ที่เอื้อให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม เพราะเทมู เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ขายสินค้าต่างประเทศโดยตรง ไม่มีผู้ประกอบการคนไทยที่เปิดร้านในแพลตฟอร์ม จึงไม่เข้าข่ายผู้ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (vat) ในประเทศไทย

โดยชี้ว่า แอปเทมู เป็นเพียงแค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง ยังมีอีกกี่บริษัท หรือที่ผ่านมาเคยมีบริษัทที่ทำแบบนี้มาแล้วนานเท่าไหร่ ที่สามารถขายของออนไลน์โดยไม่มีการจดทะเบียนบริษัทในไทย สุดท้ายเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ต้องดูแลเพื่อไม่ให้เกิดการอาศัยหาผลประโยชน์จากช่องว่างทางกฎหมาย