นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบอสพอล เดินทางมาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อนำเอกสารมอบอำนาจการเป็นทนายความมาให้ “โค้ชแล็ป” หรือ นายจิระวัฒน์ แสงภักดี เซ็นมอบอำนาจ ใช้เวลาในการเข้าเยี่ยมราว 1 ชั่วโมง ก่อนออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ล่าสุดตัวเองเป็นทนายความดูแลคดี “ดิไอคอนกรุ๊ป” ให้กับ 11 บอสผู้ต้องหา จากทั้งหมด 18 บอสแล้ว วันนี้ได้มีการตีเยี่ยมบอสพอล และโค้ชแล็ป และมีการอัปเดตข้อมูลข่าวสาร เดิมทีจะไปยื่น 5 รายชื่อ ที่ DSI เมื่อวานมีการส่งสำนวนไปที่ DSI แต่ไม่รู้ว่ามีการรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ตอนนี้ต้องรอให้ชัดก่อนว่าใครจะเป็นเจ้าภาพที่ทำคดี วันนี้มีการพูดคุยกันในเรื่องการต่อสู้คดี โดยตอนนี้ทีมทนายสามารถเข้าระบบโปรแกรมเมอร์หลังบ้านของ The iCon ได้ทั้งหมดแล้ว รู้งานหลังบ้านและสินค้าเข้า-ออก วันไหน และส่งออกให้ใครบ้าง ยืนยันว่าไม่ใช่ธุรกิจลูกโซ่แต่เป็นการขายผ่านตัวแทน ซึ่งตรงนี้มีข้อมูลทุกอย่าง และมีการส่งของผ่านขนส่งผ่านบริษัทโลจิสติกส์ทุกครั้ง ส่วนบุคคลที่บอสพอลขอให้ดำเนินการเพิ่มอีก 2 คน เป็นคนที่พูดโจมตีบริษัทฯในรายการทีวี อักษรย่อ ป. ส่วนอีกคนนึงยังไม่ชัดต้องหาข้อมูลก่อน เบื้องต้นทราบว่าเป็นอัยการ ซึ่งตอนนี้มีรายชื่อแม่ข่ายแล้ว 7 คน โดยพฤติกรรมทั้ง 7 คนเป็นคนขายสินค้า มีตัวแทน แต่มีวิธีการหาตัวแทนยังไงไม่ทราบ แต่ทั้งหมดได้รับผลประโยชน์และผลตอบแทนจากทางบริษัท
นอกจากนี้คนที่บอสพอลอยากให้ดำเนินการอีกคน คือ พรีเซ็นเตอร์อักษรย่อ ค. เป็นพรีเซ็นเตอร์ก่อนคุณกันต์ กันตถาวร ตอนนี้กำลังดูสัญญาของ ค. ซึ่งได้ผลประโยชน์ตอบแทนได้รับเหมือนบอสกันต์ แต่ยังไม่ตกเป็นผู้ต้องหา แต่กลับออกมาแฉในหลายรายการว่าบริษัททำไม่ถูกต้อง
สำหรับโค้ชแล็ป ยืนยันว่าเป็นคีย์แมนเกี่ยวกับโปรแกรมเมอร์ของบริษัททั้งหมดเนื่องจากที่ผ่านมา โค้ชแล็ปเป็นคนคุมระบบหลังบ้านทั้งหมดของบริษัท โดยในระบบของบริษัทจะมีการบอกข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับตัวแทนการรับเข้าและส่งออกสินค้า รวมถึงการสต๊อกสินค้าในโกดัง รวมถึงการเปิดบิล 250,000 บาท ซึ่งจะต้องเป็นการเปิดโดยตรงกับทางบริษัทเท่านั้น ไม่ใช่การเปิดกับแม่ข่าย
นอกจากนี้ยังได้ข้อมูลจากคนใกล้ชิดของโค้ชแล็ป ว่า ก่อนหน้าที่โค้ชแลปจะถูกจับตำรวจกองปราบได้มีการเสนอเรียกรับเงิน 9 ล้าน เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี จึงเกี่ยวข้องกับที่คุณอัจฉริยะพาตำรวจเข้าไปคุยกับโค้ชแล็ปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
หลังจากการเข้าเยี่ยมบอสพอล ในวันนี้จะมีการแยกแดน แดนละ 2-3 คน บอสพอลมีการพูดคุยได้ปกติ ซึ่งบอสพอลก็มีการประชุมวางแผนร่วมกับบอสทั้งหมดในการต่สู้คดีอยู่ตลอด ส่วนเรื่องการประกันตัว ในสัปดาห์หน้าจะมีการฝากขังครบ 1 ผัด 12 วัน จะมีการพิจารณาการขอยื่นประกันตัว ของทั้ง 15 บอส ในส่วนของบอสดารายังไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ สำหรับการประเมินว่าจะยื่นขอประกันตัวได้หรือไม่นั้นอยู่ที่ดุลพินิจของศาล ซึ่งทางทีมทนายก็ต้องมีการพูดคุยกันอย่างรอบคอบ
ส่วนประเด็นนาฬิกาเก๊ที่สามารถยึดได้ที่ห้องพักย่านรามอินทรา ทนายวิฑูรย์ยืนยันว่า นาฬิกาทั้งหมดเป็นของบอสอ๊อฟ ซึ่งเป็นของเก๊ทั้งหมด ซึ่งบอสอ๊อฟเป็นคนชอบดูไลฟ์สดและชอบให้แม่ค้าเรียกชื่อในไลฟ์ เป็นการซื้อมาเฉยๆไม่ได้คิดอะไร
ซึ่งยืนยันว่าในวันนี้พนักงานสอบสวนไม่ได้เข้ามาพบบอสพอลเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมแล้ว เนื่องจากคดีอยู่ระหว่างการโอนไปที่ DSI
ขณะผู้สื่อข่าวรายงานว่า พิธีกร ค.ที่บอสพอล บอกผ่านทนายว่าอยากให้เอาผิด ได้ออกมาโต้กลับว่า “ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ การที่จะนำเสนอข้อเท็จจริงใด ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้นเสียก่อนว่า จริงหรือไม่ อย่ามโน สิ่งที่ทนายพูดชื่อผมเข้าไปเกี่ยวข้องนั้น ทางตัวคนให้ข่าวก็รู้อยู่เต็มอกว่าความจริงคืออะไร ผมเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างไร อย่าปิดเบือนความจริง สิ ซึ่งเรื่องนี้ทางผมได้ให้ข้อมูลกับทางพนักงานสอบสวนหมดแล้ว การที่นำชื่อผมมาเกี่ยวข้องซึ่งไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย ผมไม่ใช่พรีเซนเตอร์ มีนัยยะอะไร หรือครับ หากอะไรไร้ความจริง อะไรที่ทำให้ผมเสียหายตอนนี้ให้ทีมทนายเข้ามาดูแล อย่าทำทำโดยอารมณ์ โกรธเพราะผมไม่เข้าข้าง และไปให้ข้อมูลข้อมูลต่างๆสู่สาธารณชน รึ ครับ”