เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีดราม่าร้อนในสังคมเกี่ยวกับ “เลิ่กลั่ก” อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ที่อ้างว่าถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลกับแพลตฟอร์ม “ลอตเตอรี่พลัส” งวดวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา มากถึง 5,787 ใบ คิดเป็นเงินรางวัลกว่า 11.59 ล้านบาท จนเกิดคำถามและข้อสงสัยจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมากว่าเป็นการถูกรางวัลจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงการสร้างคอนเทนต์เพื่อโฆษณา

เลิ่กลั่กได้โพสต์แสดงความยินดีกับตัวเอง พร้อมภาพยืนยันการถูกรางวัลจากลอตเตอรี่พลัส และลอตเตอรี่พลัสเองก็ได้โพสต์แสดงความยินดีเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตจำนวนมากต่างไม่เชื่อ โดยตั้งข้อสังเกตถึงจำนวนสลากที่ถูกรางวัลว่าต้องซื้อจำนวนเท่าไหร่ และลงทุนไปเท่าไหร่ถึงจะถูกรางวัลมากขนาดนี้

ด้าน นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท ลอตเตอรี่พลัส ได้ออกมาชี้แจงว่า เลิ่กลั่กถูกรางวัลกับลอตเตอรี่พลัสบ่อยครั้ง ทั้งหลักล้านและหลายล้านบาท โดยระบุว่าเลิ่กลั่กมีพฤติกรรมการซื้อสลากจำนวนมากในเลขเดียวกัน และมักจะซื้อแบบวัดดวง นอกจากนี้ ยังได้อธิบายหลักคณิตศาสตร์ว่าลอตเตอรี่พลัสมีการขายสลากกว่า 7 ล้านใบ ซึ่งมีเลขท้ายสองตัวเดียวกันอย่างต่ำ 70,000 ใบในแต่ละงวด ดังนั้น การที่เลิ่กลั่กถูกเลข 91 จำนวน 5,787 ใบจึงเป็นไปได้

กองสลากฯ ไม่มีอำนาจตรวจสอบแพลตฟอร์ม โยน DE เข้ามาดู

รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ชี้แจงว่า สำนักงานสลากฯ ไม่มีอำนาจในการตรวจสอบเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มที่กว้านซื้อสลากมาขายต่อในกรณีเช่นนี้ และได้ส่งเรื่องให้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) เป็นผู้ตรวจสอบ เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยฟ้องแพลตฟอร์มอื่นที่ทำผิดกฎหมายต่อกระทรวง DE มาแล้ว

รศ.ดร.ธนวรรธน์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การที่อินฟลูเอนเซอร์จะบอกว่าถูกรางวัลจำนวนกี่ใบก็ตาม กฎหมายไม่ได้ห้ามบุคคลซื้อสลากได้กี่ใบ หรือห้ามบอกจำนวนสลากที่ถูกรางวัล ดังนั้นจึงไม่ถือว่ามีความผิดทางกฎหมายในส่วนของอินฟลูเอนเซอร์ แต่ในส่วนของแพลตฟอร์มที่รวบรวมสลากจำนวนมากมาจำหน่ายนั้น ทราบว่าอาจเข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายอื่นของกระทรวง DE