เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner
กองกำลังบูรพา โดยทหารพรานที่สระแก้ว รวบชาวต่างชาติ 3 ราย ประกอบด้วย ชาวจีน อเมริกัน และอินเดีย ขณะลักลอบข้ามแดนจากกัมพูชาเข้าไทยกลางดึก! เจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบของกลางเป็น ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือมากถึง 1,000 ซิม ซุกซ่อนในสัมภาระของชายชาวจีน ซึ่งยอมรับสารภาพว่ากำลังนำซิมทั้งหมดไปส่งให้ “บอสใหญ่ชาวจีน” ที่เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา เจ้าหน้าที่คาดอยู่ในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติที่ใช้ไทยเป็นทางผ่าน ก่อนดำเนินคดีข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และเร่งขยายผลถึงเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ต่อไป
เมื่อเวลา 01.15 น. ของวันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ กองกำลังบูรพา และ พ.อ.พงศกร เสืองาม ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 ได้สั่งการให้กำลังพล กองร้อยทหารพรานที่ 1204 ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ออกลาดตระเวนเพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดนและขนสินค้าผิดกฎหมาย บริเวณช่องทางธรรมชาติท้ายหมู่บ้านโนนขี้เหล็ก ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
กำลังเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบชายชาวต่างชาติ 3 คน ประกอบด้วย ชาวจีน, ชาวอเมริกัน, และชาวอินเดีย กำลังลักลอบเดินเท้าข้ามแดนจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยทั้งหมดไม่มีเอกสารอนุญาตเข้าประเทศ เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวและนำมาสอบสวนที่ กองร้อยทหารพรานที่ 1204
จากการตรวจค้นตัวชายชาวจีน เจ้าหน้าที่พบซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือจำนวนมากถึง 1,000 ซิม ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้า ชายชาวจีนรับสารภาพว่า ลักลอบนำซิมการ์ดเหล่านี้จากฝั่งปอยเปต เพื่อเตรียมไปส่งมอบให้กับนายทุนชาวจีนที่เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ชายคนดังกล่าวเป็นหนึ่งในเครือข่ายของ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ ที่ใช้ไทยเป็นทางผ่านในการขนย้ายอุปกรณ์สื่อสารเพื่อก่ออาชญากรรม
ส่วนชายชาวอเมริกันอ้างว่า เดินทางมาเพื่อติดต่อเรื่องเงินบำนาญที่สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงเทพฯ ขณะที่ชายชาวอินเดียอ้างว่าต้องการเดินทางกลับประเทศ โดยจะเข้ามาซื้อของในกรุงเทพฯ ก่อน ทั้งหมดรับสารภาพว่าจ่ายเงินเพื่อลักลอบเข้าประเทศ (ยกเว้นชาวจีน) และไม่มีผู้นำพาในขณะจับกุม
เจ้าหน้าที่ทหารได้ส่งมอบผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย พร้อมของกลางซิมการ์ด 1,000 ซิม ให้แก่พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรคลองน้ำใส จ.สระแก้ว เพื่อดำเนินคดีในข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และเตรียมขยายผลต่อไปถึงขบวนการคอลเซ็นเตอร์ที่อยู่เบื้องหลังการลักลอบนำอุปกรณ์สื่อสารดังกล่าว