วันที่ 3 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในเขตเทศบาลเมืองสตูล หลังรัฐบาลโอนเงินเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยจำนวน 9,000 บาทให้ประชาชนในพื้นที่ พบว่าตามหน้าตู้เอทีเอ็มของธนาคารหลายแห่งมีประชาชนต่อคิวยาวเพื่อรอกดเงินสด ขณะที่ตู้จำนวนหนึ่งให้บริการไม่ได้เพราะเงินสดหมดจากปริมาณผู้กดจำนวนมากตั้งแต่ช่วงเช้า
ชาวบ้านรายหนึ่งเปิดเผยว่า หลังทราบว่าเงินเยียวยาเพิ่งเข้าบัญชีในวันนี้ เธอจึงรีบออกมากดเงินเพื่อนำไปใช้จ่ายจำเป็นที่ติดค้างมาหลายเดือน แต่กลับพบว่าเจ้าหนี้นอกระบบที่ตนเคยกู้เงินมาเพื่อประคับประคองชีวิตช่วงน้ำท่วม ได้มายืนดักรออยู่บริเวณหน้าตู้เอทีเอ็มทันทีที่เห็นเธอเดินเข้ามากดเงิน
เธอเล่าว่า เจ้าหนี้บางรายถึงขั้นขับรถตามมาแล้วจอดซ่อนตัวอยู่ใกล้ ๆ โดยรอให้เธอกดเงินก่อนจะเดินเข้ามาทวงต่อหน้าแบบไม่เกรงใจ ทำให้เธอต้องรีบกดเงินแล้วกลับบ้านอย่างเร่งด่วน หวั่นถูกกดดันหรือทำให้เกิดอันตราย
ขณะเดียวกัน ชาวบ้านหลายรายในพื้นที่ก็เผชิญปัญหาเช่นเดียวกัน จนต้องให้ลูกหลานเดินทางมากดเงินแทน เนื่องจากกลัวถูกเจ้าหนี้ดักรอ ไม่กล้าออกสื่อและไม่กล้าพูดกับผู้สื่อข่าวเพราะเกรงว่าจะถูกตามมาทวงถึงบ้าน
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เริ่มมีเสียงเรียกร้องจากประชาชนในจังหวัดสตูล ขอให้ทางจังหวัดเร่งประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉินเช่นเดียวกับจังหวัดสงขลา โดยเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ แม้จำนวนผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมในพื้นที่สตูลจะไม่มากเท่า แต่ประชาชนจำนวนมากยังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักทั้งด้านความเป็นอยู่ การเดินทาง และภาระหนี้สิน จึงต้องการให้รัฐเร่งเข้าช่วยเหลือ เยียวยา และจัดมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยจากเจ้าหนี้นอกระบบที่ฉวยโอกาสในช่วงที่ประชาชนกำลังลำบาก
สถานการณ์ยังคงต้องจับตา ขณะที่ฝ่ายปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถูกเรียกร้องให้เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบและดูแลความปลอดภัยให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้ประชาชนต้องเผชิญความกดดันเพิ่มเติมในช่วงเวลาที่ยากลำบากจากอุทกภัยครั้งนี้