วันที่ 23 มิถุนายน “พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ได้รับเชิญให้ไปเยือนประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส อีกทั้งยังเตรียมขึ้นปกนิตยสารไทม์ (Time) ฉบับวันที่ 2 กรกฎาคม 2018 สะท้อนถึงการยอมรับ “พล.อ.ประยุทธ์” ของต่างประเทศหรือไม่ ว่า ตนไม่อยากวิเคราะห์ เพราะ อาจถูกกล่าวหาว่าเข้าข้างตัวเอง แต่ขอให้ดูจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ คสช. เข้ามา สังเกตอาการของต่างประเทศได้ว่าค่อนข้างเฉยๆ กับเรา แต่ปัจจุบันตนเห็นว่า อากัปกิริยาจากต่างประเทศแตกต่างออกไป เขาปฏิบัติต่อรัฐบาลไทยเฉกเช่นเพื่อนสมาชิกด้วยกัน ยอมรับให้ไทยเป็นผู้นำในภาคส่วนต่างๆ ของการประชุม เช่น รับรองให้ไทยเป็นประธานกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นสมาชิกสหประชาชาติ (จี 77) ในปี 2559 รวมถึงจะได้เป็นประธานอาเซียนในปี 2562
“โดยเนื้อแท้แล้ว วิธีการเข้ามาของรัฐบาลนี้เท่านั้นที่คนอื่นรู้สึกติดใจ แต่เราก็ชี้แจงแล้วว่า เป็นเพราะเหตุจำเป็นจริงๆ เมื่อครั้งเหตุการณ์ปี 2557 ไม่ใช่อยู่ดีๆ หุนหันพลันแล่นแล้วมายึดอำนาจ แต่ได้ทอดเวลากว่า 6 – 7 เดือน ทุกคนเห็นแล้วว่า สิ่งที่อยู่ในครรลองไม่สามารถแก้ปัญหาได้ นี่จึงเป็นวิธีเดียวเท่านั้น และวันนี้นายกฯ ก็ย้ำหลายครั้งแล้วว่า เรากำลังจะเดินไปสู่การเลือกตั้งประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ที่สำคัญที่สุดคือ วิธีการปฏิบัติของรัฐบาลนี้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและดูแลพี่น้องประชาชน ไม่มีอะไรเลยที่ผิดหลักธรรมาภิบาลหรือทำลายกลไกตลาดหรือเสียวินัยการเงินคลัง ทุกอย่างมีตัวเลขที่ดีขึ้นทั้งหมด” พล.ท.สรรเสริญกล่าว
เมื่อถามว่า ขณะเดียวกันไทม์ก็ชี้ว่าอนาคตของไทยยังมืดมัว เพราะ ยังมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่น การจับกุมผู้ชุมนุม การตัดสินคดีในศาลทหาร พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า เป็นมุมมองของเขา เขาวิพากษ์ได้ แต่ในมุมของคนไทย ต้องไปถามว่า คนไทยส่วนใหญ่คิดอย่างไรกับการชุมนุมที่เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ มันมีนัยยะแอบแฝงอยู่ ถ้าประชาชนส่วนใหญ่ไม่พึงพอใจการทำงานของรัฐบาลนี้ เขาออกมาแล้ว ไม่มีทางอยู่ได้ แต่การเคลื่อนไหวที่ผ่านมามาจากกลุ่มหน้าเดิม พอเห็นหน้าก็รู้ว่าอะไร ตนกลับมองว่า รัฐบาลนี้ตั้งใจที่จะดูแลเรื่องสิทธิมนุษยชน เช่น การแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว โดยให้มีการจดทะเบียนพิสูจน์สัญชาติ รวมถึงดูแลสิทธิสวัสดิการของการเป็นแรงงานตามหลักสากล หรือเรื่องกองทุนยุติธรรมที่ทำให้คนที่มีเงินน้อยสามารถต่อสู้คดีความได้ เหล่านี้ต่างหากที่เป็นการเคารพสิทธิมนุษยชน
“การเคลื่อนไหวต้องการให้มีการเลือกตั้ง เขาก็บอกอยู่แล้วว่า จะให้มีการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ ถ้าอนุญาตให้เลือกตั้งในวันพรุ่งนี้ จะทำได้หรือ ทำไม่ได้ เพราะกลไกกระบวนการยังไม่พร้อม และเรื่องสิทธิมนุษยชนต้องแยกให้ออกกับการเคารพกฎหมาย สิทธิมนุษยชนอยู่บนพื้นฐานของการเคารพกฎหมาย ไม่ใช่เอาสิ่งที่ตัวเองอยากทำโดยไม่สนใจกฎหมาย ” พล.ท.สรรเสริญกล่าว