รถกระบะตำรวจ จ.กาญจนบุรี ชนประสานงารถกระบะบริษัทไฟแนนซ์ชื่อดังร้อยตำรวจเคราะห์ร้ายเสียชีวิตคาซาก ส่วนรถคู่กรณีอาการสาหัส
เวลา 00.10 น.ของวันที่ 16 พ.ย.61 ร.ต.อ.สมบุญ ภัทรวงษ์วิเศษ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191ว่าเกิดอุบัติเหตุรถชนกันบนถนนสายกาญจนบุรี-ไทรโยค ช่วงบริเวณเยื้องๆ ปากทางเข้าววัดหลวงตามหาบัว หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยคฯ มีผู้เสียชีวิต1 รายในที่เกิดเหตุ และได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย
หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมประสานแพทย์เวร รพ.ไทรโยค ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพพบว่า บริเวณที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ กำลังเร่งทำการช่วยนำเครื่องตัดถ่างรถยนต์ทั้ง 2 คัน เพื่อนำร่างผู้ได้รับบาดเจ็บส่ง รพ.ฯ และนำร่างผู้เสียชีวืตออกมาจากรถเพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพซึ่งรถยนต์กระบะคันแรกเป็นรกยี่ห้อโตโยต้าวีโก้แค็ป สีขาว หมายเลขทะเบียน ฒญ.8148 กรุงเทพมหานครฯ อยู่ในสภาพชนประสานงากับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าวีโก้แค็ป สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน บน.8116 กาญจนบุรี
ที่จอดอยู่ในสภาพด้านหน้าของรถทั้ง 2 คันพังเสียหายจนใช้การไม่ได้ จากการสอบสวนทราบว่า ผู้เสียชีวิตรายนี้เป็นข้าราชการตำรวจตำแหน่ง ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ทราบชื่อคือ ร้อยตำรวจตรี ฐิติพงษ์ อินทร์ห้างหว้า อายุ 53. ปี.ตำแหน่ง รอง สว. (ป.) สถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ ภูมิลำเนา 9/9 หมู่ 3 ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรีสภาพศพลำคอหัก กะโหลกแตกส่วนผู้รอดขีวิตทราบชื่อคือนายกิจจา ประทีป อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74/34 หมู่ 2 ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นพนักงานของบริษัท ฐิติกร จำกัด สาขากาญจนบุรี ได้รับบาดเจ็บอาการหมดสติ
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าร้อยตำรวจฐิติพงษ์ ผู้ตาย หลังเสร็จจากการทำธุระที่ตัวเมืองกาญจนบุรี ได้ขับรถเดินทางมุ่งหน้าจะกลับบ้านที่ อ.ทองผาภูมิฯ ส่วนนายกิจจา หลังเสร็จงาน ได้ขับรถมุ่งหน้ามาทาง อ.ไทรโยคฯ เพื่อกลับบ้านที่ อ.เมืองกาญจนบุรี โดยใช้เส้นทางดังกล่าว อยู่ๆ รถทั้ง 2 คัน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ชนประสานงากันอย่างจัง จากการตรวจสอบหลักฐาน และร่องรอยในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถฟันธง หรือชี้ชัดได้ว่า รถยนต์ทั้ง 2 คัน คันใดถูก คันใดผิด เนื่องจากถนนตรงจุดเกิดเหตุไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง ประกอบกันช่วงเวลาเกิดเหตุเป็นเวลาดึกสงัด จึงไม่มีผู้เห็นเหตุการณ์
สันนิษฐานว่า สาเหตุของการเกิดอุบัตุเหตุครั้งนี้ น่าจะต้องมีรถคันใด คันใดที่วิ่งกินเลนเข้าไปในช่องทางของอีกฝ่ายที่ขับรถวิ่งสวนทางมา จึงทำให้เกิดชนประสานงากันอย่างแรงจนทำให้ร้อยตำรวจฐิติพงษ์ เสียชีวิตคารถ ส่วนนายกิจจา ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามสอบสวนปากคำนายกิจจา เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายกันต่อไป
