เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 16 ส.ค. ร.ต.อ.อวยชัย พรมวงศ์ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.กลางดง รับแจ้งเหตุพบศพหญิงเสียชีวิตภายในสวนแก้วมังกร ริมถนนสายบ้านปางอโศก-วัดหลวงปู่กวัก ท้ายบ้านปางอโศก ม.1 ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ราชศักดิ์ ญาณอุบล ผกก.สภ.กลางดง, พ.ต.ท.จรัลธร วสันต์ชัยโชค รอง ผกก.(ป), พ.ต.ท.เกียรติชัย เกิดโชค รอง ผกก.(สืบสวน) แพทย์เวรโรงพยาบาลปากช่องนานา หน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลสีมามงคล และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างวิชชาธรสถาน ปากช่อง

ที่เกิดเหตุพบศพ น.ส.เกษร หรือ ต่าย พุทไธสง อายุ 32 ปี สภาพนอนหงายเสียชีวิต สวมเสื้อคอกลมสีเขียวทับด้วยเสื้อแจ็กเก็ตกันหนาวสีลายน้ำเงิน และที่ขากางเกงลายพรางถูกไฟเผาไหม้ บริเวณหน้าผากขวา ตาขวาบวมปิด ใบหน้าและที่หน้าอกมีรอยเขียวช้ำ นอกจากนี้ บริเวณศีรษะด้านหลังบวมปูด ข้างศพพบร้องเท้ายางสีแดงวางอยู่สภาพเรียบร้อย

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า มีผู้โทรศัพท์แจ้งศูนย์วิทยุ 1669 โรงพยาบาลปากช่องนานาว่า มีผู้แจ้งจากหมายเลขโทรศัพท์ 093-553-7881 ว่าพบศพและขอให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ต่อมา พ.ต.อ.ราชศักดิ์ ได้โทรศัพท์ไปสอบถามรายละเอียด แต่ปลายสายพูดจาวกวนคล้ายเสียงมึนเมาพร้อมกับตัดสายทิ้ง

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังไปตรวจสอบที่บ้านพักหลังหนึ่งที่อยู่ใกล้วัดหลวงปู่กวัก ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 400-500 เมตร เนื่องจากทราบว่า น.ส.เกษรมีสามีใหม่ชื่อนายพักอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว แต่ไม่พบใคร โดยพบเพียงถุงยารักษาโรคของโรงพยาบาลปากช่องนานาระบุชื่อ นายสุทร พรมโชติ จึงตรวจสอบประวัติพร้อมนำภาพให้ชาวบ้านดูก็ทราบว่าเป็นสามีใหม่ของน.ส.เกษรที่อยู่กันได้ 4-5 เดือน โดยมีอาชีพรับจ้างทั่วไป มักชอบดื่มสุรามึนเมาเป็นประจำ และทุบตีน.ส.เกษรด้วย

ทั้งนี้ ขณะที่ตำรวจกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุและออกตามหาตัว นายสุนทร อยู่นั้น ผู้ต้องสงสัยได้ขับรถจักรยานยนต์กลับมายังที่เกิดเหตุ ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้สอบสวนเบื้องต้นให้การปฏิเสธว่า “ไม่รู้ใครทำร้าย” แต่เมื่อถอดเสื้อออกมาก็พบว่าที่หน้าอกมรอยเล็บ และที่มือมีรอยบาดแผล จึงควบคุมตัวไปสอบสวนต่อที่สภ.กลางดง

ต่อมา นายสุนทร ให้การสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุ โดยทราบว่าน.ส.เกษรจะกลับไปคืนดีกับสามีคนเก่า จึงเกิดความหึงหวง ทะเลาะและทำร้ายร่างกายเป็นประจำ จนเมื่อช่วงกลางวันของวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ออกไปดื่มเหล้าจนเมาแล้วก็กลับบ้าน กระทั่งช่วงค่ำตนชวนผู้ตายไปหาสุราดื่มในหมู่บ้านอีก แต่ระหว่างทางเกิดทะเลาะกัน ตนจึงตบหน้าพร้อมชกไปหลายครั้งจนน.ส.เกษรล้มลง

นายสุทร ให้การต่อว่า จึงกระทืบทีหน้าอกจนน.ส.เกษรแน่นิ่ง จากนั้น จึงเดินย้อนกลับไปที่บ้านพัก และขับรถจักรยานยนต์ออกมายังจุดเกิดเหตุพร้อมแวะดูน.ส.เกษรก็พบว่าไม่หายใจแล้ว จึงคิดจะเผาทำลาย แต่กลัวความผิด จึงขับรถจักรยานยนต์ออกไปหาเพื่อนพร้อมโทรศัพท์แจ้ง 1669 ให้รายละเอียดว่าพบศพ เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และซ่อนเร้นทำลายศพ

ข้อมูลจาก Khaosod