จากกรณีที่ดีเอสไอ ออกมาสรุปแถลงคดี บิลลี่ พอละจี นักมนุษยชน และนักต่อสู้เพื่อสิทธิทำกินของชาวกะเหรี่ยง ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยหลังจากที่บิลลี่หายตัวไป 5 ปี ตอนนี้ก็พบศพของบิลลี่แล้ว ถูกยัดเอาไว้ในถังน้ำมัน แล้วมีการเผา

ล่าสุด 3 กันยายน 2562 ได้มีการสรุปประเด็นการเสียชีวิตของบิลลี่ พอละจี ดังนี้
17 เมษายน 2557 : บิลลี่ พอละจี เริ่มหายสาบสูญนั้น

18 เมษายน 2557 ครอบครัวได้ออกตามหา และนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ยอมรับว่ามีการคุมตัวบิลลี่ และปล่อยตัวไปแล้ว

21 เมษายน 2557 ภรรยาของบิลลี่ ได้ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัด 24 เมษายน 2557 ได้มีการยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดเพชรบุรี เพื่อไต่สวนการถูกควบคุมตัวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

2 กันยายน 2557 ศาลฎีกามายกคำร้องควบคุมตัวมิชอบด้วยกฎหมาย

16 มกราคม 2560 ดีเอสไอ ปฏิเสธรับเป็นคดีพิเศษต้นปี 2561 ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษ

2 กันยายน 2562 พบกระดูกในถังน้ำมัน

3 กันยายน 2562 พบว่ากระดูกในถังน้ำมัน เกี่ยวกันกับบิลลี่

โดยคาดว่า บิลลี่เองเสียชีวิตด้วยความทรมาน ทั้งเหล็กเส้นที่พบ ก็เพื่อเสียบเข้าไปไม่ให้ศพกระเด็นออกมาจากถังน้ำมัน โดยคาดว่า บิลลี่น่าจะโดนฆ่ายัดถัง แต่ไม่รู้ว่าเผาทั้งเป็นหรือเผาตอนตายแล้ว จากนั้นจึงปิดฝาถัง แล้วจับบิลลี่โยนลงแม่น้ำ และจากนี้ จะมีการสืบคดีฆาตกรรม

ด้านนางพิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึ นอ ภรรยาของบิลลี่ เผยว่า หลังจากที่รู้ว่าศพดังกล่าว เป็นศพของบิลลี่ ตนก็โล่งใจไปบ้าง เพราะจะได้รู้ว่าสามีไปอยู่ที่ไหน แต่อยากจะถามว่า บิลลี่ทำอะไรผิดถึงโดนฆ่าตาย และทุกคนก็รู้ว่า ใครอยู่กับบิลลี่เป็นคนสุดท้าย ซึ่งก็คือเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งบิลลี่คงไม่ไปถ้าไม่มีธุระ

ส่วนเรื่องการนำกระดูกมาประกอบพิธีนั้น ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจก่อน หลังจากบิลลี่เสียชีวิต ตนก็ลำบากมาก ต้องเลี้ยงลูกๆ คนเดียว 5 ชีวิต ตอนที่บิลลี่หายไปแรกๆ ตนก็ฝันเห็นบิลลี่ นุ่งกางเกงตัวเดียว ไม่ใส่เสื้อ และบอกว่า ขอหลบหน่อย

ภาพและข้อมูลจาก อมรินทร์ทีวี