เมื่อวันที่ 22 กันยายน เพจ ANTI SOTUS ได้นำโพสต์ของอาจารย์ท่านหนึ่งที่จบจากมหาวิทยาลัยที่มีข่าวเรื่องรับน้องที่มีการล่วงละเมิดทางเพศเกิดขึ้น โดยข้อความที่อาจารย์ท่านนี้นำมาโพสต์ ระบุว่า

“ผมไม่ปฏิเสธเรื่องรับน้องจิตกำว่ามีเรื่องแผลงๆอะไรอย่างที่ข่าวสารปรากฏ มันมีข้อมูลที่ “ถูก” แบบเป็นส่วนๆ แต่ดูเหมือนจะขาดการให้ข้อมูลแบบเป็นองค์รวมอีกหลายส่วน

ระบบรับน้องจิตกำผมมองเป็น พิธีกรรมที่แสดงออกและสื่อสารถึงปฏิสัมพันธ์เชิงโครงสร้างในระดับของ “ความไว้ใจกัน” ระหว่างบุคคลกลุ่มใหม่ที่เข้ามา “อาศัยร่วม” กับบุคลลเดิมโดยการถ่ายทอดวิถีชีวิตในแบบจิตกำผ่านวิธีการสื่อสารให้ละลายจากพฤติกรรมเดิมสู่วิถีกลุ่มที่อยู่ร่วมกันแบบครอบครัว

กิจกรรมที่ดูจะเป็นปัญหาคือสิ่งที่ว่า การล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน (คำนี้แสลงหูจริงๆ) ซึ่งจริงๆแล้วการเล่นกะ “ไอ้จู๋” ในกลุ่มเด็กวัยรุ่นชายมีมาช้านานในทุกสังคม การหยอกล้อเรื่องพรรณนี้เป็นการแสดงออกถึงความไว้ใจกันในกลุ่มเพื่อนมากกว่าคนอื่นๆทั่วไป

ผมผ่านการรับน้องที่จิตกำมาก็เจอเรื่องแบบนี้ แต่เผอิญ ผมไม่รู้จักคำว่าละเมิดสิทธิอะไรนั่น ผมได้ความไว้ใจในกลุ่ม มีปฏิสัมพันกับเพื่อนมากกว่าคำว่าการเป็นนักศึกษาที่มีต่อเพื่อนนักศึกษาหรือต่อรุ่นพี่นักศึกษา ผมเข้าใจวิถีชีวิตในคณะนี้ที่กินนอนอยู่ด้วยกันเหมือนครอบครัว

บางครั้งเพื่อนขอยืมกางเกงในผมไปใส่เพราะจะไปส่งจ็อบ

บางครั้งผมเข้าไปแปรงฟันขณะที่เพื่อนนั่งขี้อยู่ เราตดใส่กันจนเป็นเรื่องปกติ และอีกมากมายที่คนไว้ใจกันจริงๆถึงแสดงออกให้กันได้

ผมว่าที่แหละคือความเป็นอยู่แบบมนุษย์ที่ไว้ใจจริงใจอาศัยอยู่ด้วยกัน

ไม่เคยคิดถึงคำสวยๆว่า ละเมิดสิทธิบ้าบอคอแตกอะไรนั่น และผมก็ภูมิใจที่ผ่านกิจกรรมรับน้องจิตกำครับ”

โดยทางเพจ ANTI SOTUS ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับโพสต์ของอาจารย์คนนี้เอาไว้ว่า “นี้อาจารย์หรือพวกชนเผ่าชนเถื่อน บาราเรียน กันแน่เนี่ย
นี้มันสถานศึกษานะไม่ใช่ซ่อง จะได้ทำอนาจารกันได้ และสิทธิมนุษยชนมันคือสิ่งปกติที่ทุกคนต้องรู้ครับ”

ที่มา – มติชน

อาจารย์ที่จบจากศิลปกรรมบอก การเล่นกะไอ้จู๋ มีมาช้านานแล้ว เป็นการแสดงออกถึงความไว้ใจกันในกลุ่ม