วันที่ 8 พ.ย. พล.ต.ท พูนทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.3 ได้ลงนามในคำสั่งให้ พ.ต.อ.คเชนทร์ เสตะปุตตะ ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา ปฏิบัติหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 นครราชสีมา เป็นเวลา 30 วัน และให้ พ.ต.อ.สนธยา แต่แดงเพชร รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา รักษาการในตำแหน่ง ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน บริเวณหน้าห้องพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา พบผู้เสียหายจำนวน 3 ราย ถูกกลุ่มบุคคลแอบอ้างว่าได้รับมอบอำนาจช่วงจากบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ วางกลอุบายล่อซื้อแล้วจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ทยอยเดินทางมาพบนายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้จัดทีมทนายความอาสาให้บริการคำปรึกษาด้านกฎหมาย ก่อนเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน

ส่วนใหญ่เป็นการบอกเล่าเหตุการณ์ โดยมีพยานหลักฐานเป็นเอกสารข้อความการสนทนาในเฟซบุ๊ก ซึ่งระบุว่าถูกกลอุบายให้ประดิษฐ์สิ่งของทั้งกระทงและดอกไม้ รวมทั้งของชำร่วยต่างๆ ในช่วงเทศกาลสำคัญ เน้นให้มีรูปการ์ตูนเกี่ยวข้องกับลิขสิทธิ์และนัดส่งมอบสินค้าในเขตเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา ก่อนจะแสดงตนเป็นผู้รับมอบอำนาจช่วงและนำตัวไปดำเนินคดีในข้อหาความผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ) ลิขสิทธิ์ พ.ศ 2537 ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา ทุกรายได้เรียกเงินเพื่อแลกกับอิสรภาพตั้งแต่ 10,000-100,000 บาท

ต่อมา พ.ต.อ.สนธยา รรท.ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา ได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวนที่ห้องไทรทอง กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เพื่อชี้แจงการดำเนินการเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ปรากฏรวมทั้งให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย การให้ถ้อยคำของผู้เสียหาย ต้องมีมูลเหตุและลำดับเหตุการณ์ที่ชัดเจนและสามารถพิสูจน์ได้

ด้านนายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า บทสรุปล่าสุดมีผู้เสียหายที่ถูกกล่าวหาละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งหมด 38 ราย ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสู่ขั้นตอนร้องทุกข์กล่าวโทษ จากนั้นพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมวิเคราะห์มูลเหตุของคดีสมควรรับเป็นคดีหรือไม่ หากหลักฐานมีเพียงพอก็ต้องออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหาคือเจ้าของลิขสิทธิ์หรือผู้ดำเนินการจับกุม มาแก้ข้อกล่าวหา

ส่วนผู้เสียหายละเมิดลิขสิทธิ์โดราเอมอนจำนวน 16 ราย จากทั้งหมด 38 ราย ค่อนข้างชัดเจน เพราะลิขสิทธิ์โดราเอมอนได้หมดอายุความคุ้มครองไปแล้ว ผู้กล่าวหามีความผิดฐานใช้เอกสารปลอม, การแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวนการข่มขู่ขืนใจให้ยอมหรือยอมจะให้ คือการกรรโชกทรัพย์รวมทั้งการกักขังหน่วงเหนี่ยวทั้งนี้ ถือเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระใครก่อกรรมไว้ก็ต้องรับผลต่อไป ทั้งนี้สภาทนายความทั่วประเทศได้จัดทนายความอาสาประจำทุกสถานีตำรวจ ประชาชนที่มีสถานะทั้งโจทก์ จำเลย หรือผู้เกี่ยวข้องกับคดีสามารถขอรับคำปรึกษาฟรี

Cr. ข่าวสด

สั่งย้าย! ผกก.เมืองโคราช เซ่นจับกระทงลิขสิทธิ์ สภาทนายฯ จ่อฟ้องกรรโชกทรัพย์ 16 คดี