นครราชสีมา-ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีกล้องวงจรปิดภายในปั๊มแก๊ส เจ.เค.แก๊ส ถนน 304 ราชสีมา-

กบินทร์บุรี บริเวณแยกเขื่อนลำพระเพลิง ตำบลนกออก อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา จับภาพคน

ร้ายเป็นชายวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในปั๊ม และจอดรถดับเครื่องรอดูลาดเลาประมาณ 10 นาที ก่อน

ชักอาวุธปืนยิง นายโมโรด อายุ 26 ปี สัญชาติกัมพูชา เด็กปั๊มที่กำลังนั่งหลับจากด้านหลังกระสุนเจาะเข้าที่

ท้ายทอยเสียชีวิตคาที่ จากนั้นคนร้ายลงมากระชากกระเป๋าสะพายชิงเงินสดไป ก่อนสตาร์ทรถจักรยานยนต์

ขี่หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.00 น. คืนวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา ก่อนจะมีคนมาพบศพเมื่อเวลา 05.

00น.ของเช้าวันต่อมา ซึ่งในเวลาต่อมาตำรวจสามารถติดตามจับกุม นายทศวรรษ จูมแก้ว หรือฟลุ๊ค อายุ 20

ปี ผู้ที่ก่อเหตุได้ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด เวลา 13.05 น. วันนี้ (28 กรกฎาคม 2562) พลตำรวจตรี วัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธร

จังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย พันตำรวจเอก รณรงค์ สุรทศ ผู้กำกับการตำรวจ สภ.ปักธงชัย และเจ้าหน้าที่

สอบสวน สภ.ปักธงชัย ได้นำตัว นายทศวรรษ จูมแก้ว หรือฟลุ๊ค อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุไปทำแผน

ประกอบคำรับสารภาพ โดยพฤติการณ์การก่อเหตุ นายทศวรรษได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาดูลาดเลาภาย

ในปั๊ม และทำทีเข้าไปพูดคุยสอบถามทางกับนายโมโรดผู้ตาย ก่อนจะขับรถออกไป จากนั้นนายทศวรรษได้

ขับรถเข้ามาอีกครั้ง และอาศัยจังหวะที่นายโมโรด ผู้ตายกำลังฟุบหลับ ชักเอาอาวุธปืนจากกระเป๋าที่สะพาย

มาด้วย ยิงไปที่ศีรษะนายโมโรดจากทางด้านหลัง

ก่อนจะชิงเอากระเป๋าสะพายเงินสดหลบหนีไป ซึ่งภายในกระเป๋า มีเงินสดประมาณ 3,600 บาท และหลัง

ก่อเหตุได้หลบหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในเขตเทศบาลตำบลเมืองปัก นำเงินที่ชิงทรัพย์มาไปใช้หนี้การพนัน

ฟุตบอลที่ติดไว้จำนวน 3,200 บาท เหลือติดกระเป๋าอยู่เพียง 400 บาท เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายทศวรรษถูก

ทวงถามหนี้พนันฟุตบอลมาแล้วหลายครั้งจนไม่มีทางออก จึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุดังกล่าว ส่วนอาวุธปืน

ออโตเมติก ขนาด 9 มม.ที่ใช้ก่อเหตุนั้น เป็นอาวุธปืนที่แอบขโมยของพ่อที่เป็นตำรวจอยู่ในพื้นที่ เอามาใช้

ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกับนายโมโรดผู้ตายมาก่อน

ทั้งนี้ หลังจากการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้น นายทศวรรษผู้ต้องหาได้จุดธูป 1 ดอก คุกเข่าขอ

ขมาผู้ตายภายในบริเวณปั๊มแก๊สที่เกิดเหตุ ด้วยความสำนึกผิด พร้อมกับเอ่ยปากขอโทษและรู้สึกเสียใจกับสิ่ง

ที่ตนเองได้กระทำลงไป รวมถึงขอให้วิญญาณผู้ตายได้อโหสิกรรมให้ด้วย ท่ามกลางชาวบ้านที่เดินทางไปมุง

ดูการทำแผนครั้งนี้จำนวนมาก แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ ซึ่งหลังเสร็จสิ้นการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ตำรวจได้ควบคุมตัวนายทศวรรษกลับไปดำเนินคดีต่อที่ สภ.ปักธงชัย ส่วนร่างผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ฯได้ประสาน

นายจ้างให้ติดต่อญาติและส่งร่างกลับสู่มาตุภูมิเพื่อประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

************************************