โรเมลู ลูกากู และเอเด็น อาซาร์ ช่วยกันยิงคนละ 2 ประตูพาเบลเยียมถล่มตูนีเซีย 5-2 เป็นการชนะสองเกมติดขึ้นไปนำจ่าฝูงชั่วคราวของกลุ่มจี จ่อผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์เต็มที โดยดาวยิงจากแมนฯ ยูไนเต็ดยังขึ้นไปนำดาวซัลโวร่วมกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่จำนวน 4 ประตูเท่ากัน

สนาม : อ็อตครีทีฟ อารีน่า

โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ เทรนเนอร์ชาวสแปนิชของทีมชาติเบลเยียม พาทีมออกสตาร์ตทัวร์นาเมนต์ได้ตามมาตรฐาน ด้วยการถล่มปานามา 3-0 เป็นการคว้าชัย 3 นัดติด เกมนี้ ”มาร์ตี้” ยังชวดใช้งาน แว็งซ็องต์ ก็องปานี แต่ตัวหลักยังอยู่ครบเป็น 11 ตัวจริงชุดเดิมจากเกมที่แล้วนำมาโดย ติโบต์ กูร์กตัวส์, แยน แฟร์ต็องเก้น, เควิน เดอ บรอยน์, เอแด็น อาซาร์ และ โรเมลู ลูกากู

ด้าน นาบิล มาลูล เทรนเนอร์ทีมชาติตูนิเซีย พาทีมออกสตาร์ตทัวร์นาเมนต์ด้วยการแพ้อังกฤษ 1-2 แบบน่าเจ็บใจ ทำให้ต้องพยายามเน้นในเกมนี้มากเป็นพิเศษเกมนี้ยังฝากความหวังไว้ที่ วาห์บี้ คาซรี่ กองหน้าจากแรนส์

เริ่มเกมมาเพียง 6 นาที เบลเยียม ได้จุดโทษจากจังหวะที่ เซียม เบน ยุสเซฟ ไปทำฟาลว์ใส่ เอเด็น อาซาร์ ในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ อาซาร์ จะรับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาดให้เบลเยียมขึ้นนำ 1-0 หลังจากนั้น น.16 เบลเยียมขัยบหนีห่างเป็น 2-0 ดรีส์ เมอร์เท่นส์ จ่ายให้ โรเมลู ลูกากู หลุดไปซัดด้วยซ้ายบอลเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม อย่างไรก็ตามอีก 2 นาทีถัดมา ตูนีเซีย ได้ประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 จากลูกโหม่งของ ดีแลน บรอนน์ หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบครึ่งแรก เบลเยียม นำ ตูนีเซีย 2-1 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บเบลเยียมได้ประตูหนีห่างอีกครั้ง 3-1 โธมัส เมอนิเย่ร์ จ่ายทะลุช่องให้ ลูกากู หลุดไปดวลเดี่ยวกับผู้รักษาประตูยิงเข้าไปไม่เหลือ

ครึ่งหลัง น.51 เบลเยียมหนีห่างเป็น 4-1 จากจังหวะที่ อาซาร์ แตะหลบผู้รักษาประตูเข้าไปยิงอย่างเหนือชั้น น.90 เบลเยียมมาได้ประตูที่ห้าจากการยิงของ มิชี่ บาตชูอายี่ ช่วงทดเวลาบาดเจ็บตูนีเซียมาได้ประตูไล่มาเป็น 2-5 จากการยิงของ วาห์บี คาซรี่ หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบเกมเบลเยียมถล่มตูนีเซีย 5-2 ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงชั่วคราวในฟุตบอลโลก 2018 กลุ่มจี สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปเบลเยียมพบกับอังกฤษ ส่วนตูนีเซียพบปานามา วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน 2561

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เบลเยียม : ติโบต์ กูร์กตัวส์ – โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์, เดดริค โบยาต้า, แยน แฟร์ต็องเก้น – โธมัส เมอนิเย่ร์, เควิน เดอ บรอยน์, อักเซล วิตเซล, ยานนิค แฟร์เรยร่า การ์ราสโก้ – ดรีส์ เมอร์เท่นส์, เอแด็น อาซาร์ (มิชี่ บาตชูอายี่ น.68) – โรเมลู ลูกากู (มารูยาน เฟลไลนี่ น.59)

ตูนิเซีย : ฟารุค เบน มุสตาฟา – ดีแลน บรอนน์ (อัมดี้ นักเกซ น.24), เซียม เบน ยุสเซฟ, ยาสซีน เมเรียห์, อาลี มาลุล – เอลเลียส สคิรี่ – ฟาเคร็ดดีน เบน ยุสเซฟ (โยฮัน เบนาลูอาน น.41), เฟอร์จานี่ ซาสซี่ (นาอิม ซลิตี้ น.59), อานีซ บาดรี้, เซเฟดดีน คาอุย – วาห์บี คาซรี่

ผู้ตัดสิน : แฮร์ มาร์รูโฟ่ (สหรัฐฯ)

“ปลดนายกตูนิเซีย” ด่วน ปม แก้ปัญหาโควิดพัง ประชาชนแห่ดีใจ

อาซาร์-ลูกากู ซัดเบิ้ลพา เบลเยียม ไล่ถล่ม ตูนิเซีย 5-2 จ่อลิ่ว 16 ทีม