ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายโสภณ วินสน อายุ 47 ปี ว่า นายผิณ แซ่หลี อายุ 80 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ อาศัยอยู่ภายในถ้ำ พบหัวกะโหลกและโครงกระดูกมนุษย์ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีอายุหลายร้อยปี ฝังอยู่ใต้ดินหลังวัดถ้ำอิโส ติดกับเชิงเขาถ้ำอิโส หมู่ 7 บ้านชายเขา ต.ลำภูรา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าหัวกะโหลกมีสภาพค่อนข้างที่จะสมบูรณ์มีเศษดินติดอยู่จำนวนมาก ตั้งอยู่บนพื้นดิน ส่วนภายในดินที่ติดกับเชิงเขาพบว่า มีโครงกระดูกอีกจำนวนหนึ่งฝังอยู่

นายผิณ แซ่หลี ซึ่งค้นพบเป็นคนแรก เปิดเผยว่า กะโหลกนี้มีอยู่มานานแล้ว บริเวณนี้ก็มีแต่โครงกระดูกที่ถูกฝังอยู่ในดิน มีหลายปีแล้วตั้งแต่ยังไม่สร้างวัด มักจะพบโครงกระดูกมนุษย์บ้าง สัตว์ป่าบ้าง ซึ่งตนก็มักจะเจอบ่อย แต่ก็ไม่ได้บอกใคร

ในอดีตมีคนมักจะมาขุดหาสมบัติที่นี่บ่อยเมื่อขุดเจอโครงกระดูก ก็จะต้องเก็บตั้งไว้ที่นั้น ไม่สามารถเอาไปได้ และยังมีการร่ำลือกันถึงเรื่องอาถรรพ์ของถ้ำและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อดีตโครงกะโหลกดังกล่าวเคยมีพระมาทำพิธีขุด และนำกะโหลกไปไว้ที่ห้องภายในวัด แต่ไม่นานก็ป่วยและเสียชีวิต และมีอีกหลายๆ เรื่องจนไม่มีใครเข้าไปยุ่งเกี่ยว ที่นี่เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ ตนไม่รู้ว่าโครงกะโหลกที่พบนั้นมีอายุกี่ปี แต่เชื่อว่าเกินกว่า 100 ปี แน่นอน

ด้าน พระสมุห์ณรงค์ อติภทฺโท เจ้าอาวาสวัดถ้ำอิโส กล่าวว่า วัดถ้ำอิโสคือวัดชนบทที่มีถ้ำเล็กถ้ำน้อยอยู่ประมาณ 2-3 ถ้ำ มีพระจำพรรษาอยู่และมีการพัฒนาจนถึงปัจจุบัน ที่ทราบมานั้นยังไม่มีเรื่องราวการพบซากโครงกระดูกต่างๆ แต่มักจะพบซากหอยที่มีสัตว์พามากินที่นี่ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่พบโครงกะโหลกนี้

“อย่างไรก็ตาม โครงกะโหลกดังกล่าวค้นพบมานานแล้ว แต่ไม่มีชาวบ้านกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว หรือหน่วยงานใดเข้ามาตรวจสอบ แต่ครั้งนี้มีคนแชร์ผ่านโซเชียล หลังจากนี้ก็อยากให้หน่วยงานเข้ามาดูว่าโครงกะโหลกหรือโครงกระดูกที่พบนั้นเป็นของคนสมัยไหน กี่ปีมาแล้ว อยากให้นักโบราณคดีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาพิสูจน์ดูว่าเป็นโครงมนุษย์ยุคไหน เพื่อจะได้บันทึกเป็นประวัติศาสตร์ต่อไป” พระสมุห์ณรงค์ กล่าว